โบท็อก หัตถการปรับรูปหน้าที่นิยมอย่างแพร่หลาย เหมาะกับคนที่มีปัญหา กรามใหญ่ เเก้มใหญ่ หน้าบาน หรือ ริ้วรอยบริเวณหน้าผาก ตีนกา เเละระหว่างคิ้ว รวมถึงคนที่ไม่ต้องการปรับเปลี่ยนรูปหน้ามากนัก แต่เห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเจนและคงความเป็นธรรมชาติไว้ การฉีดนั้นทำง่ายใช้เวลาไม่นาน ไม่ต้องผ่าตัดพักฟื้นแต่อย่างใด ซึ่งการทำงานและจุดเด่นของแต่ละยี่ห้อจะขึ้นอยู่กับตามความบริสุทธิ์ของตัวยา ความเร็วและระยะเวลาของผลลัพธ์จึงแตกต่างกันไป รวมถึงประสบการณ์ของแพทย์ และการดูแลตัวเองที่ดีเยี่ยมของผู้ฉีดค่ะ
โบท็อกยี่ห้อไหนดีที่สุด
ตามที่เกริ่นไปแต่ละยี่ห้อ จะมีความบริสุทธิ์ของตัวยาเเละระยะเวลาในการออกฤทธิ์ไม่เหมือนกัน ซึ่งคนไข้จะเลือก ฉีดยี่ห้อ ไหนขึ้นอยู่กับงบประมาณและปัจจัยต่าง ๆ โดยยี่ห้อที่คลินิกฉีดโบท็อกนิยมใช้กันตอนนี้หลัก ๆ จะมาจากประเทศ เกาหลี เยอรมัน และสหรัฐอเมริกา ดังนี้ค่ะ
- Xeomin จากประเทศเยอรมัน ที่มีความบริสุทธิ์สูงไม่มีโปรตีนผสม ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพ เห็นผลชัดเจน ถ้าคนไข้ ฉีด Xeomin ก็จะได้รับตัวยา 100 % โอกาสดื้อยาน้อยที่สุด ผลลัพธ์ให้ความธรรมชาติ ไม่เเข็งตึง
(หากเป็นเคสที่เคยดื้อยาเเล้วหยุดฉีดอย่างน้อย 2-3 ปี แพทย์จะเเนะนำยี่ห้อนี้) - Allergan จากประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นที่นิยมใช้กันทั่วโลก มีความบริสุทธิ์สูงเเต่ยังคงมีโปรตีนผสมอยู่เล็กน้อย โอกาสดื้อยาน้อย ผลลัพธ์เเม่นยำเป็นธรรมชาติ
- Nabota จากประเทศเกาหลี ราคาไม่เเรงคุณภาพเกินร้อย มีความบริสุทธิ์สูง 98.7% ได้รับรองจาก อย.อเมริกา U.S.FDA ตัวยาออกฤทธิ์เร็ว ผลลัพธ์ไม่ทำให้ใบหน้าเเข็งตึง สามารถเเสดงสีหน้าได้อย่างปกติ
- Aestox จากประเทศเกาหลี ตัวนี้มีความบริสุทธิ์อยู่ที่ 99.5% มีโปรตีนผสมอยู่ค่อนข้างเยอะกว่ายี่ห้อ Allergan , Xeomin เเต่ก็ได้รับความนิยมไม่เเพ้กัน เหมาะสำหรับมือใหม่อยากฉีดโบเเต่มีงบจำกัด ล่าสุดผ่านการรับรองจาก อย. ไทยเป็นที่เรียบร้อย
ลำดับคุณภาพของการ ฉีดยี่ห้อ ต่าง ๆ จากสูงไปต่ำเรียงได้ดังนี้ค่ะ Xeomin – Allergan – Nabota – Aestox แต่ว่าทั้ง 4 ยี่ห้อนี้ล้วนเป็นที่นิยมและปลอดภัย สลายหมดไม่ตกค้าง ทั้งนี้อย่าลืมศึกษาวิธีตรวจสอบของแท้ด้วยนะคะ
แต่ละยี่ห้ออยู่ได้นานเท่าไหร่
ยี่ห้อที่มีโปรตีนต่ำจะสลายตัวช้าที่สุดค่ะ ซึ่ง Xeomin ไม่มีโปรตีนผสม เป็นสารเพียว ๆ 100% ดังนั้นยี่ห้อนี้จะกระจายตัวดี อยู่ได้นานที่สุดนั่นเอง และขอแจ้งไว้ก่อนสำหรับคนที่กลัวว่าได้รับไปเต็ม ๆ จะเสี่ยงอันตรายที่สุดหรือเปล่า แท้จริงแล้วนี่เป็นความเชื่อที่ผิดนะคะ ปกติแล้วคนที่แพ้นั้น คือแพ้โปรตีนค่ะไม่ใช่ตัวโบท็อก ถ้าเลือกคลินิกที่เชื่อถือได้ นำเข้าของแท้ และแพทย์ผู้ช่ำชองประสบการณ์สามารถฉีดได้อย่างเหมาะสม แม่นยำ รับรองว่าไม่อันตรายค่ะ
ควรเลือกฉีด Botox กี่ยูนิตในแต่ละจุด
ใน 100 ยูนิตนี้สามารถ ฉีดจุดไหนได้บ้าง เเต่ละตำแหน่งฉีดกี่ยูนิต จึงจะแสดงสีหน้าอารมณ์ได้ตามปกติ ไม่แข็ง ผลลัพธ์ดูสวยเป็นธรรมชาติ ก็ต้องอยู่ในความพอดีนะคะ โดยจุดฉีด Botox ปรับรูปหน้าให้เป๊ะอย่างเป็นธรรมชาติ มีดังต่อไปนี้ค่ะ
- กราม ควรฉีดข้างละ 30 – 40 ยูนิต หากมากกว่านี้อาจจะเกิดปัญหาหน้าตอบ ดูโทรม ดูแก่ โหนกแก้มสูงขึ้นอีกด้วย
- ลิฟกรอบหน้า ควรฉีดประมาณ 20 – 30 ยูนิต
- ริ้วรอยบริเวณหน้าผาก ควรฉีดไม่เกิน 12 – 16 ยูนิต หากฉีดมากกว่านี้อาจจะเกิดปัญหาหน้าผากเเข็งตึง ดูไม่เป็นธรรมชาติ
- ริ้วรอยบริเวณระหว่างคิ้ว ควรฉีดประมาณ 12 – 16 ยูนิต หากมากกว่านี้กล้ามเนื้อจะขยับได้ลำบาก เเสดงสีหน้าอารมณ์ได้ยาก
- ริ้วรอยบริเวณตีนกา ควรฉีดประมาณ 10 – 16 ยูนิต หากมากกว่านี้จะขยับกล้ามเนื้อยาก หรือหน้าเเข็งตึงจนเกินไป อาจเกิดปัญหา คิ้วกระดก คิ้วตก หรือหางตาตก ได้อีกด้วย
- ริ้วรอยบริเวณรอยย่นที่จมูก ควรฉีดไม่เกิน 6 ยูนิต
หากต้องการอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการฉีด Botox อย่างเหมาะสม สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ บทความนี้ค่ะ
ฉีดโบท็อกเจ็บมากไหม อันตรายหรือเปล่า
หลายคนกังวลว่า ฉีดโบท็อกเจ็บไหม อันตรายหรือเปล่า ยิ่งบางคนกลัวเข็มมากเสียด้วยทำเอาใจเสียไม่กล้าไปฉีดเลยทีเดียว แต่ทนได้แน่นอนค่ะ ไม่เจ็บมากอย่างที่คิด หรือถ้ากลัวมากจริง ๆ สามารถบอกคุณหมอให้แปะยาชา ประคบน้ำแข็งเพื่อลดความเจ็บได้เลยนะคะ เพียงเท่านี้เรื่อง ฉีดโบท็อกเจ็บไหม ก็ไม่เป็นปัญหาแล้ว ส่วนเรื่องความอันตรายขอยืนยันอีกครั้ง การฉีด Botox เป็นหัตถการที่ความปลอดภัยสูงมาก โดยผ่านการรับรองจาก FDA ของสหรัฐอเมริกา หากเลือกคลินิกที่ดีและแพทย์มีความเชี่ยวชาญก็ไม่เป็นอันตรายอย่างแน่นอน
ผลลัพธ์หลังทำการรักษา
Botox เป็นหัตถการที่ใช้เวลาเพียง 10-15 นาที ในการรักษา ไม่นานเลยค่ะ และเห็นผลลัพธ์เร็วภายใน 14 วัน เท่านั้น แถมยังออกฤทธิ์อยู่ได้นานหลายเดือนหรือ 1-2 ปีขึ้นไป แล้วแต่ยี่ห้อ ในระหว่างนี้สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติไม่ต้องพักฟื้นค่ะ
ดูเเลตัวเอง ก่อน – หลัง ฉีด Botox
ต่อให้ประสิทธิภาพของ Botox จะดีแค่ไหนก็ต้องควบคู่กับการดูแลตัวเองที่ถูกต้องด้วยนะคะ เราจึงนำเคล็ดลับดี ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ก่อน-หลังฉีด เพื่อรักษาความสวยให้อยู่กับคุณไปนาน ๆ มาฝากทุกคน ดังนี้ค่ะ
- สัปดาห์แรก ก่อนฉีด ควรงดทานยาเเละอาหารเสริมวิตามิน สมุนไพร โสม ยาแก้อักเสบหรือแอสไพริน ยาละลายลิ่มเลือด น้ำมันตับปลา แปะก๊วย รวมถึงบุหรี่และแอลกอฮอล์ เนื่องจากจะทำให้เลือดหยุดช้า เกิดรอยช้ำได้ง่าย
- ขยับกล้ามเนื้อ ทันทีหลังฉีดเสร็จ และทำต่อเนื่องสม่ำเสมอ โดยเฉพาะการฉีดลดกราม ควรพกหมากฝรั่งไว้เคี้ยว หรือกัดฟัน เพื่อบริหารกล้ามเนื้อ และช่วยให้ตัวยากระจายตัว ทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้นค่ะ
- หลีกเลี่ยงการสัมผัส หลังฉีด6-8 ชั่วโมงแรก งดนอนราบ จับ กด คลำ บีบ บริเวณที่ฉีดเข้าไปก่อนนะคะ เพื่อลดความเสี่ยงตัวยาไหลไปยังจุดที่เราไม่ต้องการ
- ใช้น้ำแข็งประคบ 1-2 วันแรก ถ้าเกิดอาการบวมแดงหรือช้ำหลังฉีด สามารถใช้น้ำแข็งประคบเพื่อบรรเทาอาการลงได้ ซึ่งอาการบวมแดงนี้ไม่เป็นอันตราย และสามารถหายเองได้ภายใน 1-2 วัน
- หลีกเลี่ยงความร้อน ภายใน 1-2 สัปดาห์แรกหลังฉีดควรงดอบซาวน่า ทำสปา หรือเลเซอร์ รวมถึงทานอาหารประเภท ชาบู ปิ้งย่าง ที่ต้องนั่งอยู่หน้าเตาร้อน ๆ เนื่องจากความร้อนอาจจะทำให้กล้ามเนื้อหดขยายและอาจจะทำให้ Botox กระจายไปส่วนอื่นนั่นเอง
- เว้นระยะในการฉีด หลังจากฉีดไปแล้วควรเว้นระยะในการกลับมาฉีดซ้ำ อย่างน้อย 3 เดือน เพราะอาจจะส่งผลให้เกิดความเสี่ยงในการดื้อ Botox ได้
- ควรพบเเพทย์ เพื่อประเมินเเละติดตามผลการรักษา
เลือกคลินิกฉีดโบท็อกยังไงดี
ในปัจจุบันมีคลินิกโบท็อกเกลื่อนในท้องตลาด หลายคนจึงตัดสินใจไม่ถูกว่าควรเลือกใช้บริการ ฉีด Botox ที่ไหนดี วันนี้เรามีคำแนะนำวิธีเลือกคลินิกพื่อให้ทุกคนนำไปประกอบตัดสินใจ ดังนี้ค่ะ
- เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข ตรวจสอบได้ สถานที่ภายในคลินิกมีความสะอาด ปลอดภัย มีอุปกรณ์ และเครื่องมือที่ทันสมัย นอกจากนี้การบริการก่อน-หลังทำหัตถการก็มีความสำคัญเป็นอย่างมาก
- Botox ของแท้เท่านั้น ผลิตภัณฑ์ที่นำมาฉีดให้คนไข้ต้องเป็นของแท้ 100% สามารถตรวจสอบได้ คุณหมอเปิดกล่องโชว์ขวดใหม่ให้ดูต่อหน้า
- แพทย์มีความเชี่ยวชาญ สามารถประเมิน วิเคราะห์ใบหน้าได้อย่างแม่นยำ การฉีด Botox ต้องอาศัยความชำนาญ ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับใบหน้าและชั้นผิวแต่ละชั้นเป็นอย่างมาก ถึงคุณหมอทุกท่านจะฉีดยาได้ แต่กับการฉีด Botox นั้นต่างออกไป ทั้งเรื่องปริมาณที่ใช้อย่างเหมาะสม และปัญหาของคนไข้แต่ละคนได้อย่างตรงจุด
- รีวิวที่น่าเชื่อถือ ต้องมีรีวิวจากผู้เข้ารับบริการจริง ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ หรือวิดีโอ ที่สามารถช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และควรมีช่องทางการติดต่อที่สะดวก รวดเร็ว สามารถสอบถาม ปรึกษาข้อสงสัยได้
- บริการนัดติดตามผล หลังการรักษาทุกเคส ตอบคำถามรวดเร็ว สะดวก
- ความสะดวกในการเดินทาง เพราะผู้เข้ารับบริการต้องเข้ามาติดตามผล
มาถึงตรงนี้ ข้อสงสัยเกี่ยวกับ Botox คงกระจ่างมากขึ้นแล้วนะคะ สำหรับใครที่ยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการ ฉีด Botox เพิ่มเติม ก็สามารถทักมาพูดคุยปรึกษาได้เลยค่ะ ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ เราพร้อมให้คำแนะนำอย่างตรงไปตรงมาด้วยความใส่ใจจริงค่ะ