ใต้ตาดำ

ใต้ตาดำ ของคู่กันกับมนุษย์ค้างคาว หรือชาวนอนดึกทั้งหลาย พอเข้าใจได้ว่าหลาย ๆ คนชอบบรรยากาศตอนกลางคืนในการทำสิ่งต่าง ๆ แต่น่าเสียดายที่กลับได้ของแถมที่ไม่ต้องการแบบรอยดำบริเวณใต้ตาตามมาด้วย แต่ในเมื่อไลฟ์สไตล์บางอย่างมันห้ามไม่ให้นอนเร็วอยู่ ถ้าอย่างนั้นมาดูวิธีแก้ไขไปพร้อม ๆ กันเลยดีกว่าค่ะ

ใต้ตาคล้ำดำ เกิดจากอะไร แค่นอนดึกอย่างเดียวไม่น่าใช่นะ

สาเหตุหลักที่พบเจอได้บ่อยก็คือ พฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การนอนดึก พักผ่อนไม่เพียงพอ ติดนิสัยขยี้ตาบ่อย ๆ  และอีกสาเหตุหนึ่งคือมาจากปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ เช่น พันธุกรรม หรือมีโรคประจำตัวอย่างโรคภูมิแพ้ค่ะ

สาเหตุใต้ตาดำจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต

  • นอนดึก นอนน้อย ทำใต้ตาคล้ำ

ไม่ว่าจะนอนโต้รุ่งด้วยสาเหตุอะไร ก็มีผลทำให้เกิดความหมองคล้ำบริเวณใต้ตาได้นะคะ เนื่องจากร่างกายอ่อนเพลียเส้นเลือดรอบดวงตาไหลเวียนไม่สะดวก ขอบตาโดยรอบจึงดำคล้ำ ดูโทรม

ใต้ตาดำ
  • ขยี้ตาบ่อย มาทั้งริ้วรอยและความหมองคล้ำใต้ตา

การขยี้ตาแรงทำให้ผิวหนังเกิดการเสียดสีบ่อย ๆ เมื่อเส้นเลือดและผิวรอบดวงตาถูกทำร้ายก็จะเกิดร่องรอยดำคล้ำตามมานั่นเอง บางครั้งยังเกิดอาการอักเสบ ตาบวมอีกด้วยนะคะ

  • ตากแดดบ่อย ทำร้ายทั้งผิวหน้าและรอบดวงตา

สำหรับบางคนอาจจะต้องทำงานกลางแจ้ง หรือมีเหตุให้โดนแสงแดดรังสี UV แรง ๆ เป็นประจำ ใต้ตาจะสร้างเม็ดสีเมลานินที่ส่งผลให้ผิวบริเวณนั้นดูเข้มขึ้น จึงมองเห็นใต้ตาคล้ำอย่างชัดเจน

  • ดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่จัด อุปสรรคใต้ตาอิ่มฟู

ทั้งนิโคตินในบุหรี่และแอลกอฮอล์มีผลให้เส้นเลือดขยายตัว เลือดไหลเวียนมากขึ้น จนเกิดรอยคล้ำใต้ตาได้ง่ายค่ะ 

สาเหตุใต้ตาดำจากปัจจัยที่ห้ามไม่ได้

  • ใต้ตาเริ่มดำจากโรคภูมิแพ้

ปัญหานี้เป็นปัญหาที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตค่ะ แต่เกิดจากโรคภูมิแพ้ เพราะโดยปกติจะการที่ไอ จาม บ่อยครั้งจมูกก็จะเกิดการอักเสบทำให้เยื่อบุโพรงจมูกบวม พอบวมแล้วทำให้เลือดดำไหลผ่านยากและไปคั่งอยู่บริเวณใต้ตาทำให้ใต้ตาคล้ำขึ้นและมีปัญหาริ้วรอยใต้ตาร่วมด้วยค่ะ 

ใต้ตาดำ
  • ส่งต่อมาทางกรรมพันธุ์ ต้องทำใจ

หากคนไข้ท่านใดมีสมาชิกในครอบครัวที่มีปัญหาใต้ตาคล้ำดำเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จะมีโอกาสเกิดปัญหาเดียวกันที่ถ่ายทอดมาทางกรรมพันธุ์นั่นเองค่ะ

  • อายุมากขึ้น รอบดวงตาคล้ำขึ้นไปด้วย

ผิวหนังของมนุษย์เราจะบางลงไปตามกาลเวลา ไขมันรอบดวงตาเองก็ฝ่อตัวลง ซึ่งนี่ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้มองเห็นเส้นเลือดดำใต้ตาชัดเจน จนเห็นความหมองคล้ำยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีปัญหาในเรื่องความหย่อนคล้อยริ้วรอยใต้ตาอีกด้วยค่ะ

วิธีรักษาใต้ตาดำทั่วไป ใครก็ทำตามได้

  • ปรับพฤติกรรม กลับมานอนไวขึ้น

หากใครรู้ตัวว่าที่มีปัญหาใต้ตามีรอยดำจากการอดหลับอดนอน ก็เริ่มต้นด้วยการเปลี่ยนพฤติกรรมนั้นก่อนเลยค่ะ การพักผ่อนให้เพียงพอเป็นเรื่องสำคัญมาก นอกจากจะทำให้ใต้ตาหายดำ กลับมาสดใส ยังทำให้ร่างกายแข็งแรง ไม่อ่อนเพลียระหว่างวันอีกด้วย

  • ลด ละ เลิกสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ และขยี้ตา

เนื่องจากพฤติกรรมเหล่านี้เป็นตัวทำร้ายใต้ตา และทำให้หน้าดูโทรม ในช่วงแรกถ้าไม่สามารถเลิกเด็ดขาดได้ทันที อาจจะค่อย ๆ ลดความถี่ลงแทนค่ะ 

  • ทาอายครีมบำรุง เติมความชุ่มชื้นใต้ตา

ถ้าถามว่าใต้ตาดำ ใช้อะไรดี คงต้องแนะนำการทาอายครีมเพราะถือเป็นวิธีรักษาและป้องกันความหมองคล้ำใต้ตาที่ค่อนข้างดีทีเดียวค่ะ แต่อาจต้องใช้เวลานานหน่อยกว่าจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจน ไม่เหมาะกับคนใจร้อนเท่าไหร่นัก แต่หากไม่ได้รีบอะไรและมีงบประมาณจำกัด ก็แนะนำอายครีมที่มีส่วนผสมของ Niacinamide, Vitamin C, Arbutin หรือ Licorice สามารถช่วยฟื้นฟูใต้ตาคล้ำได้ระดับหนึ่ง

ใต้ตาดำ
  • มาร์คหน้าด้วยแตงกวาเย็น ๆ

วิธีธรรมชาติที่ใคร ๆ ก็คงคุ้นเคย เนื่องจากแตงกวาสามารถเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวได้ดี ลดความหมองคล้ำใต้ดวงตาได้จริง หาซื้อง่ายราคาถูกและยังทำให้รู้สึกผ่อนคลายอีกด้วย แต่ก็ต้องทำใจถึงระยะเวลาเช่นเดียวกับการทาอายครีมนะคะ

  • ดื่มน้ำอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน

การดื่มน้ำให้เพียงพอนั้นมีประโยชน์เยอะแยะมากมาย นอกจากจะทำให้ระบบร่างกายเพิ่มประสิทธิภาพในการไหลเวียนของเลือดได้ดี ยังฟื้นฟูเซลล์ผิวให้กระจ่างใสซึ่งตรงนี้จะช่วยลดปัญหาใต้ตาคล้ำดำได้ด้วยนะคะ

  • ออกกำลังกายให้ครบสยบรอยคล้ำใต้ตา

การออกกำลังกายนอกจากจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงแล้วจะช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดให้ร่างกายสูบฉีดเลือดและลำเลียงออกซิเจนไปเลี้ยงผิวหนังมากขึ้นและยังช่วยควบคุมปริมาณฮอร์โมนความเครียดหรือคอร์ติคอล ที่มีผลไปกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวหนังกระจ่างใสและกระชับมากยิ่งขึ้นโดยการออกกำลังกายที่ดีที่สุดคือ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ค่ะ

  • หลีกเลี่ยงแดดตัวร้ายทำลายใต้ตา

แสงแดดศัตรูตัวฉกาจที่ทำให้เกิดริ้วรอยรอบดวงตาเพราะว่าแสงแดดมีรังสีอัลตราไวโอเลตซึ่งสามารถทำลายอิลาสตินกับคอลลาเจนให้ผิวหนังเราเสื่อมสภาพแก่ไวนั่นเองทุกคน

เป็นยังไงกันบ้างคะ ใต้ตาดำ ใช้อะไรดี กับวิธีเอาชนะความหมองคล้ำโดยการปรับพฤติกรรมของตัวเองง่าย ๆ แต่ต้องขอบอกตามตรงว่าวิธีข้างต้นมันค่อนข้างที่จะเห็นผลลัพธ์ช้า หากอยากลดความดำใต้ตาอย่างรวดเร็วต้องเข้าคลินิกความงาม ทำหัตถการที่เหมาะสมจะง่ายที่สุดค่ะ จะมีหัตถการใดเหมาะสมบ้าง เลื่อนลงไปอ่านต่อกันเลย

รักษาใต้ตาดำ ฉบับเร่งด่วน ทำหัตถการไหนเห็นผลไวสุด

ฟิลเลอร์ใต้ตา

ฟิลเลอร์ไม่ได้มีดีแค่ปรับรูปหน้านะคะ แต่ยังเป็นวิธีรักษาเติมเต็มร่องลึกใต้ตาให้อิ่มฟู สดใส เต่งตึง ลดใต้ตาคล้ำได้ชัดเจนตอบโจทย์มากที่สุดอีกด้วยค่ะ นอกจากนี้ขอบตาดำก็จางลง แถมยังเห็นผลลัพธ์หลังทำทันที สะดวกรวดเร็วมาก 

ฟิลเลอร์ใต้ตาดำ
ฟิลเลอร์ใต้ตาดำ
ฟิลเลอร์ใต้ตาดำ

ปริมาณ CC ที่เหมาะสม : ข้างละ 1-2 CC แล้วแต่ปัญหารายบุคคล

ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะกับปัญหาใต้ตา : BELOTERO และ JUVEDERM เพราะจุดเด่นของทั้งสองยี่ห้อนี้คือความนุ่ม กลืนเข้ากับผิวบริเวณใต้ตาอย่างเป็นธรรมชาติ หมดปัญหากังวลใต้ตาเป็นก้อน 

  • BELOTERO FILLER

ฟิลเลอร์สัญชาติสวิตเซอร์เเลนด์มีทั้งหมด 4 รุ่น ผลิตออกมาเพื่อให้เหมาะกับการฉีดเติมเต็มเเต่ละจุดบนใบหน้า คุณสมบัติเป็นฟิลเลอร์ที่มีสารอุ้มน้ำช่วยทดเเทนคอลลาเจนบนใบหน้าที่หายไปได้อย่างเป็นธรรมชาติ กลืนเข้ากับผิวได้เร็ว เเละอยู่ได้นานถึง 1 ปี

  • Colorful Filler SOFT สีเหลือง : เหมาะสำหรับเติมเต็ม ใต้ตาลึกมีรอยดำ ใต้ตาเป็นร่อง ริ้วรอย ตีนกา หน้าผาก
  • Colorful Filler VOLUME  สีม่วง : เหมาะสำหรับเติมเต็มเเก้มตอบ ขมับบุ๋ม เเก้มส้ม คาง
  • Colorful Filler BALANCE สีส้ม : เหมาะสำหรับเติมเต็มร่องเเก้ม ร่องน้ำหมาก ร่องระหว่างคิ้ว รอยเหี่ยวย่นรอบปาก
  • Colorful Filler INTENSE : สีชมพู : เหมาะสำหรับเติมเต็มริมฝีปากให้อวบอิ่ม กระจับชัด ยกมุมปาก เเละ ร่องแก้ม, แก้มตอบ 
ฟิลเลอร์
  • FILLER JUVEDERM

ฟิลเลอร์สัญชาติสหรัฐอเมริกา มีจุดเด่นเรื่องความยืดหยุ่น เป็นฟิลเลอร์ที่พัฒนาด้วยเทคโนโลยี Hylacross พัฒนาให้ฟิลเลอร์เป็นเนื้อเจลมีความอุ้มน้ำได้ดี เนื้อละเอียดมีความยืดหยุ่นสูง ผลลัพธ์หลังฉีดจะได้ความเรียบเนียนกลืนเข้ากับผิวเป็นอย่างมาก เเละผ่านการรับรองความปลอดภัยจากอย.สหรัฐอเมริกา (US FDA) เเละอย.ประเทศไทย (Thai FDA) โดยสามารถสลายออกเองได้ 100% ไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกายเเน่นอน มีทั้งหมด 6 รุ่น ซึ่งเเต่ละรุ่นก็มีคุณสมบัติเเตกต่างกัน เพื่อให้เเพทย์นำมาใช้ในเเต่ละบริเวณจุดฉีดอย่างเหมาะสม แต่ 3 รุ่นที่มีจุดเด่นเรื่องความเรียบเนียน มีดังนี้

  • Juvederm Voluma : รุ่นนี้มีโมเลกุลขนาดใหญ่ มีความเเน่น เรียบเนียน ยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับเติมเต็ม ใต้ตาคล้ำ ใต้ตาเป็นร่อง ร่องแก้ม ขมับตอบ คางสั้น คางตัด ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่บวมช้ำหลังฉีด อยู่ได้นานถึง 2 ปี
  • Juvederm Ultra Plus : ฟิลเลอร์รุ่นนี้มีความเนื้อนิ่มเเละอิ่มฟูมาก เหมาะสำหรับเติมเต็มร่องเเก้ม ขมับตอบ ให้ผลลัพธ์ออกมามีสัดส่วนที่สวยงาม ปรับสมดุลของใบหน้าได้อย่างดีเยี่ยม คงตัว ไม่ไหล อยู่ได้นานถึง 1 ปี
  • Juvederm Volbella : ฟิลเลอร์รุ่นนี้มีความละเอียดมากที่สุด เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม เหมาะสำหรับเติมเต็มผิวหนังบางๆ เช่น ใต้ตาคล้ำ มีรอยดำเป็นร่อง ริมฝีปาก ริ้วรอยเล็ก ๆ  อยู่ได้นานถึง 1 ปี
ฟิลเลอร์

Filorga MHA 10

ใช้เข็มด้ายขนาดเล็กฉีดผลิตภัณฑ์ตัวยาชนิดเข้มข้น (Mesotherapy) เข้าไปบริเวณผิวหนังชั้นใน ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอยความหมองคล้ำใต้ตาคล้ำ ให้กลับมาฟื้นฟูกระจ่างใสดูสุขภาพดียิ่งกว่าเก่า และจะเหมาะสำหรับผู้ที่ใต้ตาไม่คล้ำมาก ไม่มีปัญหาใต้ตาเป็นร่องลึก หรือมีริ้วรอยเพียงเล็กน้อยค่ะ

ทรีทเมนท์

บำรุงและฟื้นฟูอย่างล้ำลึก ด้วยการผลักวิตามินเข้มข้นเข้าสู่ผิว ซึ่งทำให้ผิวชุ่มชื้นแข็งแรงกระจ่างใสไม่หมองคล้ำ รวมถึงช่วยรักษาปัญหาใต้ตามีรอยดำได้อีกด้วยค่ะ เรียกได้ว่าลงลึกยิ่งกว่าการทาครีมเซรั่มทั่วไปถึง 40 เท่า เลยทีเดียว

เลเซอร์ใต้ตา 

การทำเลเซอร์สามารถช่วยปรับสภาพผิว รักษารอยดำใต้ตาทำให้ดูเรียบเนียน ช่วยลดเลือนริ้วรอยได้ค่ะ แต่ในส่วนของผลลัพธ์ ยังไม่สามารถสู้การฉีดฟิลเลอร์ได้ และไม่เหมาะกับคนไข้ที่ใต้ตาคล้ำจากอายุที่เพิ่มขึ้น

รางวัลสกิน คลินิก

ทั้ง 11 วิธีแก้ปัญหาใต้ตาดำ ที่นำมาแนะนำในวันนี้ล้วนมีประสิทธิภาพดี และรักษาได้จริง เพียงแค่บางอย่างอาจจะไม่ได้ตอบโจทย์กับทุกคน ดังนั้นเลือกตามความเหมาะสมกันนะคะ ถ้าต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็ว ไม่เสียเวลาพักฟื้น ก็ต้องฉีดฟิลเลอร์จึงจะดีที่สุด อย่าลืมตรวจสอบคลินิกและแพทย์ผู้ทำการปรับรูปหน้า และศึกษาวิธีดูฟิลเลอร์แท้กันด้วยนะคะ