ฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์ ตัวช่วยปรับรูปหน้า รักษาส่วนที่ขาดหาย หรือต้องการจะปกปิดอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะปากบาง ใต้ตาดำ คางสั้น ขมับตอบ หรือร่องแก้มลึก Filler ก็ช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างครอบคลุม ซึ่ง Filler แท้ จะมีความปลอดภัย เห็นผลไวภายใน 30 นาที และวันนี้เราจะมาตอบคำถามที่ได้ยินกันอยู่บ่อย ๆ ว่า ฉีดฟิลเลอร์ราคาเท่าไหร่ เลือกยี่ห้อและคลินิกไหนดี แต่ละจุดใช้กี่ CC กันแน่ ฉีดฟีลเลอร์เจ็บไหม จะทนไหวหรือเปล่า? ถ้าพร้อมแล้วมาตามคำตอบไปพร้อม ๆ กันเลยนะคะ

เลือกฉีดยี่ห้ออะไรดี รุ่นไหนดีที่สุด

คำถามแรกเรื่องยี่ห้อไหนดีที่สุดตอบได้ทันทีเลยว่า ไม่มีค่ะ เพราะต่อให้เลือกฉีดยี่ห้ออะไร ราคาแพงแค่ไหน รุ่นอะไรก็ไม่สามารถฉีดทุกจุดบนใบหน้าได้นะคะ เนื้อของแต่ละยี่ห้อก็เหมาะสำหรับบางจุดเท่านั้น โดยคุณหมอจะประเมินตามความเหมาะสมกับแต่ละจุดที่คุณต้องการแก้ปัญหาเคสต่อเคสค่ะ 

ดังนั้นในการฉีดแต่ละครั้งคุณหมอต้องประเมินรูปหน้าของคุณอย่างละเอียดก่อนว่า บริเวณผิวที่คุณอยากเติมเต็มเข้าไปเหมาะกับการฉีดยี่ห้อไหน รุ่นอะไร ซึ่งสิ่งคัญที่สุดในการฉีด ก็คือเรื่องเทคนิคเเละประสบการณ์ของคุณหมอนั่นเองค่ะ ไม่ใช่คุณหมอทุกท่านจะฉีดฟิลเลอร์ได้คุณหมอที่คุณเลือกจะต้องมีความเชี่ยวชาญสูง รู้วิธีการเลือกเนื้อและชนิดให้เหมาะกับผิวบริเวณที่คนไข้อยากเติมเต็ม เเละมีความเเม่นยำในการลงเข็มที่ชั้นผิวหนังของคนไข้ จะได้ไม่เกิดปัญหาตามมานั่นเองค่ะ 

ยี่ห้อไหน ตอบโจทย์ปัญหาผิวหน้าบริเวณใดบ้าง

1. BELOTERO FILLER

Filler สัญชาติสวิตเซอร์เเลนด์ 4 สีสันที่สดใสโดดเด่นบ่งบอกถึงรุ่นเเต่ละชนิดเเต่ละสูตร คุณสมบัติเป็นสารอุ้มน้ำช่วยทดเเทนคอลลาเจนบนใบหน้าที่หายไปได้อย่างเป็นธรรมชาติ กลืนเข้ากับผิวได้เร็ว จึงได้รับความนิยมมากเพราะผลลัพธ์ดีและอยู่ได้นานค่ะ

  • Colorful Filler SOFT สีเหลือง : เหมาะสำหรับเติมเต็มร่องลึกใต้ตา ริ้วรอย ตีนกา หน้าผาก
  • Colorful Filler VOLUME  สีม่วง : เหมาะสำหรับเติมเต็มเเก้มตอบ ขมับบุ๋ม เเก้มส้ม คาง
  • Colorful Filler BALANCE สีส้ม : เหมาะสำหรับเติมเต็มร่องเเก้ม ร่องน้ำหมาก ร่องระหว่างคิ้ว รอยเหี่ยวย่นรอบปาก
  • Colorful Filler INTENSE : สีชมพู : เหมาะสำหรับเติมเต็มริมฝีปากให้อวบอิ่ม กระจับชัด ยกมุมปาก เเละ ร่องแก้ม แก้มตอบ 
ฟิลเลอร์

2. FILLER JUVEDERM

Filler สัญชาติสหรัฐอเมริกา ที่หลายคนคุ้นเคยกันดี ยี่ห้อนี้ ราคาเท่ากับ Belotero Filler แต่มีจุดเด่นเรื่องความยืดหยุ่น เป็นยี่ห้อที่พัฒนาด้วยเทคโนโลยี Hylacross พัฒนาให้เป็นเนื้อเจลมีความอุ้มน้ำได้ดี เนื้อละเอียดมีความยืดหยุ่นสูง ผลลัพธ์หลังฉีดจะได้ความเรียบเนียนกลืนเข้ากับผิวเป็นอย่างมาก เเละผ่านการรับรองความปลอดภัยจาก US FDA เเละ Thai FDA โดยสามารถสลายออกเองได้ 100% ไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกายเเน่นอน ซึ่งมีทั้งหมด 4 รุ่น โดยความเเตกต่างจะอยู่ที่ปริมาณของ ไฮยาลูรอนิค เเต่ที่เราเตรียมมาแนะนำคือ 3 รุ่นที่มีจุดเด่นเรื่องความเรียบเนียน ดังนี้ค่ะ

  • Juvederm Voluma : รุ่นนี้มีโมเลกุลขนาดใหญ่ มีความเเน่น เรียบเนียน ยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับเติมเต็มร่องแก้ม ขมับตอบ คางสั้น คางตัด ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่บวมช้ำหลังฉีด อยู่ได้นานถึง 2 ปี  
  • Juvederm Ultra Plus : รุ่นนี้มีส่วนผสมของยาชาที่ช่วยลดความเจ็บปวดขณะฉีดอยู่ด้วย เนื้อมีความนิ่มเเละอิ่มฟูมาก เหมาะสำหรับเติมเต็มร่องเเก้ม ขมับตอบ ให้ผลลัพธ์ออกมามีสัดส่วนที่สวยงาม ปรับสมดุลของใบหน้าได้อย่างดีเยี่ยม คงตัว ไม่ไหล อยู่ได้นานถึง 1 ปี
  • Juvederm Volbella : รุ่นนี้มีความละเอียดมากที่สุด เป็นเนื้อนิ่ม เหมาะสำหรับเติมเต็มผิวหนังบาง ๆ เช่น ใต้ตา ริมฝีปาก ริ้วรอยเล็ก ๆ อยู่ได้นานถึง 1 ปี
ฟิลเลอร์

3.FILLER NEURAMIS

Filler สัญชาติเกาหลีได้การรับรองจาก US FDA เเละ Thai FDA ถือเป็นยี่ห้อที่มีความปลอดภัยสูงเหมาะสำหรับการเติมเต็มร่องแก้ม ขมับตอบ คาง ผลลัพธ์หลังฉีดใบหน้าจะดูอิ่มฟูขึ้นละมุนอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่เเข็งหรือเป็นก้อนเเน่นอนค่ะ เเละราคาไม่สูง อยู่ได้นาน 6-8 เดือน เเต่บริเวณที่ไม่ควรฉีด Neuramis ก็คือ บริเวณใต้ตาค่ะ เพราะเนื้อไม่เหมาะสม เสี่ยงเป็นก้อนสูงนั่นเอง

ฟิลเลอร์

ยี่ห้อ อะไร อยู่ได้นานที่สุด

Filler แท้จะย่อยสลายหมดไม่ตกค้างเองตามกระบวนการของร่างกายซึ่งทำให้มีความปลอดภัยสูง แต่ว่าไม่มียี่ห้อไหนเหมาะสมกับทุกจุดบนใบหน้า ดังนั้นไม่อยากให้คำนึงถึงระยะเวลาของผลลัพธ์เพียงอย่างเดียวนะคะ เน้นใส่ใจความเหมาะสมตอบโจทย์ปัญหาและความสามารถของแพทย์ผู้ฉีดถือว่าสำคัญกว่ามากค่ะ

  • BELOTERO FILLER อยู่ได้นานถึง 1-2 ปี
  • FILLER JUVEDERM อยู่ได้นานถึง 1-2 ปี
  • FILLER NEURAMIS อยู่ได้นานถึง 6-8 เดือน
ฟิลเลอร์

ฉีดฟิลเลอร์ ราคา เท่าไหร่

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเรื่องงบประมาณก็เป็นปัจจัยอันดับต้น ๆ ที่คนไข้ให้ความสำคัญ ซึ่งเราก็เข้าใจได้ค่ะ แต่อยากเตือนไว้ว่าอย่าพิจารณาเรื่องฉีดฟิลเลอร์ราคาถูกหรือแพง เพียงอย่างเดียวจนไม่ฟังคำแนะนำของคุณหมอนะคะ ถ้าดื้อแล้วมีผลข้างเคียงตามมาทีหลัง เสี่ยงหน้าพังมันไม่คุ้มกันเลย 

  • BELOTERO FILLER ราคา 9,900.- จากปกติ 20,000.-
  • FILLER JUVEDERM ราคา 9,900.- จากปกติ 20,000.-
  • FILLER NEURAMIS ราคา 6,900.- จากปกติ 14,000.-

ฉีดแต่ละจุดต้องใช้ยี่ห้ออะไร ปริมาณ CC เท่าไหร่

ตำแหน่งฮิตที่สามารถฉีดได้แบบไม่ติดปัญหา ไร้ความเสี่ยง ตามการประเมินของแพทย์ มี 8 จุด ค่ะ ซึ่งแต่ละจุดจะใช้ปริมาณที่แตกต่างกัน ตามปัญหาของคนไข้ ดังนี้

ฟิลเลอร์
  1. ขมับ ใช้ปริมาณในการฉีด 2 – 3 CC สามารถฉีดแก้ปัญหาขมับตอบ ขมับบุ๋ม สาเหตุที่ทำให้โครงหน้าดูแก่ หน้าโทรม แต่จุดนี้ต้องระวังให้ดีเพราะเป็นจุดที่มีเส้นเลือดใหญ่ ทำให้บอบบาง และยากแก่การฉีด ต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์นะคะ
  2. แก้มส้ม ใช้ปริมาณในการฉีด 2 – 4 CC จะช่วยแก้ปัญหาหน้าไม่มีมิติ ช่วยยกกระชับรูปหน้าให้สวยอวบอิ่ม ดูเด็กขึ้นอีกด้วย
  3. ร่องแก้ม ใช้ปริมาณในการฉีด 1 – 2 CC แก้ปัญหาร่องแก้มลึก มีร่องน้ำหมาก เห็นเป็นรอยชัด เหมือนคุณยายทำให้สาว ๆ หมดความมั่นใจไปมากเหมือนกัน เมื่อฉีดแล้วจะช่วยเติมร่องแก้มลึกให้ตื้นขึ้นได้ค่ะ
  4. ใต้ตา ใช้ปริมาณในการฉีด 1 – 3 CC ใครที่มีปัญหาใต้ตาลึกโบ๋มีร่องลึก ที่ทำให้ดูไม่สดใส ดูโทรม อ่อนล้า เหมือนคนไม่ได้นอน แก้ไขได้ด้วยเทคนิคฉีด Filler ที่มีโมเลกุลนุ่ม เพื่อให้ใต้ตาอิ่มเต็มเป็นธรรมชาติค่ะ
  5. คาง ใช้ปริมาณในการฉีด 1 – 2 CC เป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับคนที่มีคางบุ๋ม คางสั้น คางตัด ก็สามารถ ฉีดทำให้หน้าดูเรียว เข้ารูป คางสวยยาวเป็นธรรมชาติ กว่าการเสริมซิลิโคนค่ะ
  6. ปาก ใช้ปริมาณในการฉีด 1 – 2 CC จุดนี้จะสามารถปรับลุคใบหน้าโดยรวมให้หวานหรือเซ็กซี่ได้เลย ฉีดฟิลเลอร์ปากช่วยแก้ปัญหา ปากไม่สวย ปากบาง ไม่ได้ทรง ให้ปากสวยได้ทรงอวบอิ่ม โดดเด่น เพิ่มความมั่นใจ พร้อมช่วยยกมุมปากให้ดูเป็นมิตรได้ด้วยนะคะ
  7. กรอบหน้า ใช้ปริมาณในการฉีด 1 – 4 CC ช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวสวย ลดความเด่นชัดบริเวณขากรรไกร ทำให้ใบหน้าส่วนล่างมีความสมดุลขึ้น และที่สำคัญยังช่วยลดความหย่อยคล้อยบริเวณกรอบหน้าในกลับมากระชับเต่งตึงได้ค่ะ
  8. บริเวณผิว ใช้ปริมาณในการฉีด 1 – 2 CC จะใช้เทคนิคการฉีดเข้าที่ผิวชั้นบนแบบตื้น ๆ ช่วยเติมเต็มทำให้ผิวอุ้มน้ำได้มากขึ้น ชุ่มชื้นมากขึ้น เติมร่องผิว ช่วยให้ร่องตื้นขึ้น ได้ผิวที่ผิวฉ่ำวาว สดชื่นมีออร่า เปล่งปลั่งมาจากผิวข้างในลุค Glass Skin เหมือนมีไฮไลท์บริเวณที่แสงตกกระทบอยู่ตลอดเวลาแบบสาวเกาหลี โดยไม่ต้องใช้เมคอัพช่วยแม้แต่นิดเดียวค่ะ

ฉีดฟิลเลอร์เจ็บไหม บวมช้ำหลังฉีดหรือเปล่า

บอกตรง ๆ ว่าเจ็บตอนฉีดยาชาเล็กน้อยค่ะ แต่เป็นระดับที่คนทั่วไปทนได้แน่นอน หลังจากยาชาออกฤทธิ์ก็สบายแล้ว ดังนั้นในส่วนนี้ไม่ต้องกังวลเลย ส่วนในเรื่องอาการบวมช้ำหลังฉีดอันนี้สามารถเกิดขึ้นได้ แต่จะมากน้อยแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับผิวของเเต่ละคน เเละภายใน 7-14 วัน จะเริ่มอิ่มฟูเข้าที่กลืนเข้ากับผิว อาการบวมเหล่านี้จะลดลงเองค่ะ คนไข้สามารถประคบเย็นเพื่อบรรเทาอาการบวมได้ เเต่ควรหลีกเลี่ยงการกด นวด บริเวณที่ฉีดเป็นเวลา 2-3 วัน

ฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์

ผลลัพธ์หลังฉีด Filler

คนไข้จะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงทันทีหลังคุณหมอฉีดเสร็จค่ะ และเห็นผลลัพธ์เข้าที่ชัดเจน ประมาณ 2-3 สัปดาห์ เพื่อให้เวลาสมานรวมกับชั้นผิวให้เรียบเนียน ซึ่งจะมีอายุประมาณ 6-18 เดือน แล้วแต่รุ่นค่ะ และฟิลเลอร์แท้จะสลายหมด 100% ไม่มีสารตกค้างค่ะ

ก่อนฉีด Filler เตรียมตัวยังไง

  1. ศึกษาข้อมูล ดูรีวิวเยอะ ๆ ทั้งการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน เทคนิคที่คุณหมอเลือกใช้รวมไปถึงวิธีการสังเกตของแท้ พิจารณาแต่ละยี่ห้อฉีดฟิลเลอร์ราคาสมเหตุสมผลหรือไม่ เพื่อความปลอดภัยและมั่นใจว่าจะได้ที่คุ้มค่าจริง ๆ
  2. งดยา อาหารเสริม และวิตามินบางชนิดก่อนฉีด เช่น Aspirin Ibruprofen และ Vitamin E
  3. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1-3 วัน ก่อนฉีด
  4. หากมีโรคประจำตัวหรือยาที่ต้องรับประทานประจำควรแจ้งคุณหมอก่อนทุกครั้ง
  5. ทำความสะอาด ล้างเครื่องสำอางก่อนฉีด
ฟิลเลอร์

วิธีรักษาให้ Filler อยู่ได้นาน เต็มประสิทธิภาพ

  1. หลีกเลี่ยงการบีบ นวด กดในจุดที่ฉีด เพราะ Filler อาจเคลื่อนผิดรูปได้
  2. ควรดื่มน้ำเปล่าให้มากกว่าปกติ จะช่วยให้ Filler อิ่มฟูยิ่งขึ้นและอยู่ได้นานมากขึ้น โดยเฉพาะใน 3 วันแรกหลังฉีดไปจนถึง 2 สัปดาห์หลังฉีด
  3. หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง 2 สัปดาห์ เช่น อบซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ตากแดด
  4. ควรงดทานอาหารบางอย่างที่ส่งผลต่อการอักเสบ บวม และทำให้ Filler เข้าที่ช้า ดังนี้ค่ะ
  •  เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
  •  อาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อน ๆ เช่น หมูกระทะ ชาบู
  •  อาหารหมักดอง อาหารรสเผ็ด อาหารหวานจัดและอาหารดิบจากร้านที่ไม่สะอาด
  •  งดสูบบุหรี่ เพราะจะทำให้ยุบบวมช้าและผลลัพธ์ของการรักษาอยู่ได้สั้นลงด้วยค่ะ

ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี มีวิธีเลือกคลินิกยังไงบ้าง

การฉีด Filler ให้สวยปลอดภัย ไม่เสี่ยงฟิลเลอร์เป็นก้อน ไหล หน้าพัง ให้ดูความน่าเชื่อถือ สามารถตรวจสอบข้อมูลได้ ดังนี้ค่ะ

  1. คลินิกมีใบอนุญาต 11 หลักประกอบกิจการ สามารถตรวจสอบได้ที่ ลิงก์นี้ค่ะ
  2. เเพทย์มีประสบการณ์ มีความเชี่ยวชาญในการใช้ Filler เพื่อปรับรูปหน้า สามารถตรวจสอบได้จริงที่ ลิงก์นี้ค่ะ
  3. Filler ต้องเป็นของแท้ 100% แพทย์เปิดกล่องให้ดูต่อหน้า ราคาสมเหตุสมผล และคำนึงถึงความเชี่ยวชาญและเทคนิคที่แพทย์เลือกใช้มากที่สุดค่ะ 
  4. มีรีวิวจากผู้เข้ารับบริการจริง สามารถตรวจสอบได้
  5. ความสะดวกในการเดินทางเนื่องจากต้องเข้ามาติดตามผล
ฟิลเลอร์

จบกันไปกับวิธีการรักษาและปรับรูปหน้าด้วย Filler หวังว่าจะช่วยคลายข้อสงสัยให้กับคุณได้ครบนะคะ อย่าลืมว่าจะฉีดฟิลเลอร์ราคาเท่าไหร่ไม่สำคัญเท่าความสามารถในการประเมินและเทคนิคของแพทย์ จะถูกจะแพงก็ไม่สามารถการันตีผลลัพธ์ที่ดีได้ เราเน้นที่ความเหมาะสมของปัญหา หากหนุ่ม ๆ สาว ๆ คนไหนสนใจ แนะนำให้ส่งรูปภาพมาให้แพทย์ประเมินหรือทักมาสอบถามกับทางเราได้ฟรีตลอด 24 ชั่วโมงได้เลยนะคะ