เสริมคางแผลใน

เสริมคางแผลใน คนที่อยากเสริมคางต้องเคยได้ยินผ่านหูมาบ้างไม่มากก็น้อยค่ะว่าคืออะไร มีขั้นตอนการเสริมยังไงแน่ แล้วต่างจากการเสริมแผลนอกยังไง แล้วเลือกเสริมแบบไหนดีที่สุดการดูแลตัวเองก่อนและหลังเสริมคางแผลใน ดูแลยังไง ใครที่ยังมีปัญหาคาง แล้วยังไม่มั่นใจ  อ่านบทความนี้ได้เลย

1.เสริมคางเหมาะกับใคร เสริมแบบไหนดี?

การเสริมคาง คือ การปรับโครงสร้างด้วยการใส่ซิลิโคนซึ่งจะทำให้ใบหน้าดูเรียวยาวมากขึ้น  โดยส่วนมากคนที่นิยมเสริมคางจะมีปัญหาหน้ากลม คางสั้น คางตัด คางบุ๋ม มองแล้วดูไม่มีมิติ หน้าดูสั้นทำให้เสียความมั่นใจในการใช้ชีวิตค่ะ โดยหากเสริมคางแล้วจะทำให้ใบหน้าดูสมส่วนมากขึ้นนั่นเอง โดยการเสริมคางเหมาะกับคนที่มีปัญหาคางทุกแบบก็ใช้วิธีเสริมคางได้เช่นกันโดยมีทั้งเสริมคางแผลนอก และ การเสริมคางแผลใน

2.คลายสงสัยการเสริมคางมีกี่แบบนะ?

การเสริมคางด้วยการใส่ซิลิโคนเป็นที่นิยมมากที่สุดในตอนนี้ จะมี 2 เทคนิค คือ

  •  แผลในช่องปาก
  • แผลนอกช่องปากนะคะ 

3.เสริมคางแผลนอกแผลในต่างกันยังไง

เสริมคางแผลใน

ความจริงแล้วต่างกันที่เทคนิคการกรีดอย่างการเสริมคางแผลในจะผ่าตัดในร่องเหงือกระหว่างริมฝีปาก แต่แผลนอกจะกรีดที่คางบริเวณด้านนอก นอกจากต่างกันเรื่องเทคนิคแล้วยังต่างกันในเรื่องการดูแลที่การเสริมคางแผลในจะต้องดูแลเป็นพิเศษกว่าแผลนอกเล็กน้อย แต่นอกนั้นก็เหมือนกันทั้งในเรื่องการใส่ซิลิโคนเสริมเหมือนกัน รวมถึงเรื่องผลลัพธ์ที่ทำให้หน้าได้สัดส่วนเรียวขึ้นเหมือนกันค่ะ

เสริมคางแผลใน

เสริมคางแผลนอก

ใช้เทคนิคการกรีดแผลตรงร่องเหงือกระหว่างริมฝีปากประมาณ 1-3 เซนติเมตร ข้อดีของการเสริมคางเทคนิคนี้คือมองไม่เห็นแผลเป็นนั่นเองค่ะ เลยเหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากให้คนอื่นมองเห็นแผลผ่าตัดของเราเลือกการเสริมคางแบบนี้เลยค่ะเหมาะมาก แต่ข้อควรระวังของการทำคางแบบแผลในคือการดูแลรักษาความสะอาดให้ดีค่ะเพราะถ้าหากดูแลไม่ดีจะส่งผลให้เกิดการติดเชื้อได้ค่ะ

ขั้นตอนการเสริมคางแผลในมีอะไรบ้างนะ?

1. การเสริมคางแผลใน คุณหมอจะใช้มีดกรีดตรงคาง  ตั้งแต่ส่วนของเหงือกลงไปจนถึงส่วนกระดูกคางด้านหน้าค่ะ โดยแผลมีความยาว 1 – 3 เซนติเมตร    

2. หมอจะทำการฝังและยึดซิลิโคนลงในตำแหน่งที่ได้กำหนดไว้ตรงล็อคคางของคนไข้

3. เมื่อวางซิลิโคนเสร็จคุณหมอจะเย็บแผลด้วยไหมละลาย เป็นอันเสร็จค่ะ

เสริมคางแผลนอก 

เสริมคางแผลนอก

เทคนิคนี้เหมาะสำหรับคนมีปัญหาคางเบี้ยวเอียงมากกว่าแผลในค่ะเพราะผ่าตัดง่ายกว่า ส่วนคนที่มี คางสั้น คางตัด หรือปัญหาคางอื่น ๆ สามารถทำได้ทั้งการเสริมซิลิโคนแบบเสริมคางแผลในเลยค่ะ โดยคุณหมอจะกรีดไปที่บริเวณคางประมาณ 1-3 เซนติเมตร ซึ่งข้อดีของการเสริมคางแผลนอกคือการทำความสะอาดที่ง่ายมาก ๆ นั่นเองค่ะเพราะอยู่นอกช่องปาก จึงทำให้โอกาสการติดเชื้อน้อยกว่าแผลใน 

ขั้นตอนการเสริมคางแผลนอกทำยังไงนะ?            

1. คุณหมอจะฉีดยาชาที่บริเวณคาง เพื่อทำให้ไม่รู้สึกปวดขณะผ่าตัด  

2. กรีดแผลใต้คาง ความยาว 1-3 เซนติเมตร  

3. นำซิลิโคนใส่ในตำแหน่งที่ได้กำหนดไว้แล้วนั่นเอง  

4. คุณหมอเย็บแผลเป็นอันเสร็จค่ะ

การดูแลตัวเองก่อนเสริมคาง

1.งดสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2 สัปดาห์

 2.งดกินของหมักดองอย่างน้อย 2 สัปดาห์

3.งดยาที่มีผลต่อการเเข็งตัวของเลือดหรือวิตามินอาหารเสริมอย่างน้อย 2 สัปดาห์ 

4.งดการแต่งหน้าบริเวณที่ ทำคาง เพราะจะส่งผลต่อการผ่าตัดเนื่องจากอาจะทำให้ติดเชื้อได้

5.พักผ่อนให้เพียงพอก่อนเสริมคางให้ร่างกายฟื้นฟูเต็มที่

เสริมคางแผลในดูแลแบบนี้ไม่เสี่ยงติดเชื้อ

1.กรณีแผลใน ให้ใช้น้ำสะอาดหรือน้ำเกลือบ้วนปากอย่างสม่ำเสมอ

2.ใช้เจลประคบเย็นตำแหน่งละ 30 วินาที 3 วัน ติดต่อกัน ต่อด้วยประคบอุ่นอีก3 วันโดยเอาเจลแช่ในน้ำอุ่น

3.ห้ามใช้มือเท้าคางเด็ดขาดหลังเสริมคางเพราะอาจทำให้คางเคลื่อนได้

4.นอนพักฟื้น เคลื่อนไหวร่างกายเท่าที่จำเป็น อย่างน้อย 2-3 วัน

5.นอนโดยใช้หมอนล็อคคออย่างน้อย 1 เดือน ให้นอนหงาย งดนอนตะแคง เพื่อป้องกันซิลิโคนทะลุ เบี้ยวเอียง

6.กรณี ทำคาง แผลใน ให้ใช้น้ำสะอาดหรือน้ำเกลือบ้วนปากอย่างสม่ำเสมอ

7.งดรับประทานอาหารเผ็ดจัดหรือร้อนจัด อาหารแข็ง 2 สัปดาห์

8.งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่อย่างน้อย 1 เดือน

9.งดออกกำลังกายอย่างน้อย 7 วัน เพราะอาจทำให้แผลเกิดการกระทบกระเทือนได้

เสริมคางแผลนอกดูแลแบบนี้ไม่เป็นแผลเป็น

1.แผลนอกให้ใช้คัตตอนบัตชุบน้ำเกลือ ทำความสะอาดบริเวณแผล ตามด้วยเบตาดีน และ ใช้ขี้ผึ้ง เช็ดบริเวณแผล

2.ใช้เจลประคบเย็นตำแหน่งละ 30 วินาที 3 วัน ติดต่อกัน ต่อด้วยประคบอุ่นอีก3 วันโดยเอาเจลแช่ในน้ำอุ่น

3.ห้ามใช้มือเท้าคางหลังเสริมคางเด็ดขาดเพราะอาจทำให้คางเคลื่อนได้

4.นอนพักฟื้น เคลื่อนไหวร่างกายเท่าที่จำเป็น อย่างน้อย 2-3 วัน

5.นอนโดยใช้หมอนล็อคคออย่างน้อย 1 เดือน ให้นอนหงาย งดนอนตะแคง เพื่อป้องกันซิลิโคนทะลุ เบี้ยวเอียง

6.งดรับประทานอาหารเผ็ดจัดหรือร้อนจัด อาหารแข็ง 2 สัปดาห์

7.งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่อย่างน้อย 1 เดือน

8.งดออกกำลังกายอย่างน้อย 7 วัน เพราะอาจทำให้แผลเกิดการกระทบกระเทือนได้

9.งดการแต่งหน้าอย่างน้อย 2 สัปดาห์ในบริเวณ ที่ ทำคาง เพราะเครื่องสำอาง อาจทำให้แผลติดเชื้อ

เสริมคาง

4. ซิลิโคนเสริมคางมีกี่ประเภท?

ไม่ว่าจะเสริมคางแบบไหนเสริมคางแผลนอกหรือแผลใน ก็ใช้ซิลิโคนประเภทเดียวกันได้ค่ะ

  1. ซิลิโคนแบบขาสั้น
  2. ซิลิโคนแบบขายาว

5.เสริมคางบวมช้ำกี่วันกันแน่

หากมีคำถามว่าเสริมคางแผลในกี่วันหายโดยปกติเสริมคางแผลนอกหรือเสริมคางแผลในโดยปกติจะมีอาการบวมเต็มที่ในช่วง 3-7 วัน และจะค่อย ๆ บวมน้อยลง แต่ก็ไม่ปกติเสมอไปเนื่องจากบางคนอาจเกิดปัญหาที่ว่า บวมมากกว่าปกติมีห้อเลือด จนถึงขั้นที่เกิดอาการอักเสบจนต้องทำการผ่าเอาซิลิโคนออก อาจเป็นเพราะเทคนิคของหมอที่เราไปผ่าตัดที่ไม่ประณีตและไม่ชำนาญมากพอหรืออาจจะเพราะร่างกายบวมช้ำง่ายอยู่แล้วเพราะดังนั้นแล้วการเลือกหมอและคลินิกที่ดีและมีเทคนิคที่ดีก็มีส่วนช่วยให้ปัญหาตรงนี้ลดน้อยลงได้ รวมถึงการเลือกทาน Centica อาหารเสริมลดบวมช้ำหลังศัลยกรรมป้องกันการเกิดพังผืดและแผลเป็น ไอเทมที่คนอยากเสริมคางต้องมี 

อ่านเพิ่มเติมที่? 

เสริมคาง กี่วันหายบวม 3 เทคนิค ทำคาง บวมน้อย แผลเล็ก 

6.เสริมคางเสริมแบบไหนดีที่สุด

เสริมคาง

หลายคนยังสงสัยว่าเสริมคางแผลในหรือแผลนอกดีที่สุด ตอบให้ชัดเลยนะคะว่าเสริมแผลนอกหรือแผลไหนก็ผลลัพธ์คือคางเรียวสวยทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับความชอบและความสะดวก ใครไม่อยากให้เห็นแผลที่ผ่าตัดเลือกเป็นเสริมคางแผลในแต่ข้อเสียคือจะทำความสะอาดและดูแลยากกว่าเสริมคางแผลนอก ส่วนใครที่ไม่ซีเรียสเรื่องการเห็นแผลผ่าตัดก็เลือกเป็นเสริมคางแผลนอกได้ค่ะ

คลายสงสัยกันหรือยังคะว่า เสริมคางแผลในกี่วันหาย สำหรับใครที่มีแพลนจะเสริมคางแล้ว ยังลังเลว่าจะเสริมคางแผลในหรือเสริมคางแผลนอกดีที่สุด เลือกแบบไหนดี ความจริงขึ้นอยู่กับความชอบและความสะดวกเลยค่ะเพราะผลลัพธ์ก็คือการทำให้รูปหน้าได้ สัดส่วนที่สวยขึ้นเหมือนกัน อย่างไรก็ตามการเสริมคางทั้งแผลนอกหรือเสริมคางแผลในต้อง ดูแลให้ดีโดยเฉพาะแผลในเพราะจะช่วยลดโอกาสการติดเชื้อหลังผ่าตัดด้วยค่ะ