เสริมคาง

เสริมคาง ให้เรียวสวย ไม่โป๊ะ ต้องทำยังไง แล้วควรเสริมที่ไหนดี มีหลักการเลือกคลินิกอย่างไรบ้าง เชื่อว่านี่คือคำถามในใจของใครหลายคนที่มีปัญหาคางสั้น คางตัด คางเบี้ยว รวมถึงปัญหาคางอื่น ๆ ซึ่งคางที่ได้สัดส่วน มีองศาสมดุลรับกับใบหน้า และช่วยเสริมโหงวเฮ้งนั้นก็มีหลักการทางการแพทย์อยู่ค่ะ ถ้าอยากรู้ต้องตั้งใจอ่านศึกษาให้ดี ๆ แล้วมาตามคำตอบไปพร้อมกันในบทความนี้นะคะ 

เสริมคางคืออะไร รู้ก่อนตัดสินใจทำ

การศัลยกรรมคาง คือ การปรับโครงสร้างใบหน้าให้ดูเรียวยาว สวยงาม หวานละมุนโดยง่าย เหมาะกับคนที่มีปัญหา คางสั้น คางตัด หน้าเหลี่ยม หน้ากลม การต่อคางให้ยาวขึ้นนั้นเป็นตัวช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ดีมาก ๆ รับรองว่าดูดี มีมิติ สวยงามขึ้นทันที เพราะคางคือองค์ประกอบสำคัญของใบหน้า หากคางสวยก็จะช่วยให้รูปหน้าได้สัดส่วน อย่างที่กล่าวไปข้างต้นค่ะ 

ปัญหาคางแบบนี้ เสริมดีไหมนะ

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจเรื่องสัดส่วนใบหน้ากันก่อนนะคะ ใบหน้าของคนเราจะแบ่งเป็น 3 ส่วน ดังนี้ 

สัดส่วนใบหน้า

ส่วนที่ 1 คือ หน้าผาก – ระหว่างคิ้ว

ส่วนที่ 2 คือ ระหว่างคิ้ว – ปลายจมูก

ส่วนที่ 3 คือ ปลายจมูก – ปลายคาง

หากส่วนที่ 3 คือบริเวณคางสั้นกว่าส่วนอื่น แปลว่าคุณมีปัญหาลักษณะคางที่ทำให้ใบหน้าไม่ได้สัดส่วน แต่สามารถแก้ไขได้ค่ะ โดยลักษณะคางที่ควรเสริมให้ยาวขึ้น มีดังนี้

  1. คางสั้น คือ ปัญหารูปหน้าส่วนคางจะสั้นกว่าส่วนอื่น ทำให้หน้าดูกลม คางสั้นพบได้บ่อยในคนเอเชีย
  2. คางตัด คือ บริเวณปลายคางจะตัดตรง ไม่มีปลายคาง เป็นปัญหาใหญ่สำหรับสาว ๆ เพราะทำให้โครงหน้าดูแมนคล้ายผู้ชาย
  3. คางถอย คือ คางมีลักษณะสั้น เนื้อน้อย และถอยร่นไปด้านหลัง ทำให้เหมือนคนไม่มีคาง 
  4. คางบุ๋ม คือ มีรอยบุ๋มตรงบริเวณปลายคาง บางคนเห็นชัดเจน บางคนบุ๋มเล็กน้อย แตกต่างกันไป

เสริมคางมีกี่รูปเเบบ แตกต่างกันอย่างไรบ้าง

สำหรับใครที่ยังสงสัยว่าศัลยกรรมมคางคืออะไร มีขั้นตอนการทำอย่างไรบ้าง มันมีทั้งหมด 2 รูปแบบค่ะ คือ แผลนอก และ แผลใน โดยวิธีการศัลยกรรมทั้ง 2 รูปแบบนี้ มีขั้นตอน กระบวนการผ่าตัดแตกต่างกัน โดยคุณจะเลือกแบบไหนนั้นขึ้นอยู่กับความสะดวกส่วนบุคคล พิจารณาตามภาพรวมข้อดีและข้อควรระวังของทั้ง 2 รูปแบบ เพื่อเลือกรูปแบบที่ตัวคุณโอเคมากที่สุด ร่วมกับการวิเคราะห์ตามความเหมาะสมของแพทย์ที่ทำการศัลยกรรมคางให้ค่ะ 

เสริมคาง
เสริมคาง

แผลนอก

แพทย์จะทำการฉีดยาชาบริเวณคาง เพื่อไม่ให้คนไข้รู้สึกเจ็บปวดขณะทำการผ่าตัด และกรีดแผลใต้คาง ความยาว 1-2 เซนติเมตร เล็ก ๆ จากนั้นจึงฝังซิลิโคนในตำแหน่งที่ได้กำหนดไว้อย่างแม่นยำ ต่อให้คางยาวสวยแบบที่ตั้งใจและปิดด้วยการเย็บแผลด้วยไหมละลาย

ข้อดี คือ ผ่าตัดง่าย สามารถแก้ไขปรับรูปคางได้หลายองศา ตกแต่งผิวหนังส่วนเกินใต้คางเช่นรอยแผลเป็นเก่าได้ และการดูแลตัวเองหลังทำคางแผลนอกค่อนข้างสะดวกสบาย โอกาสติดเชื้อน้อยกว่าทำแผลใน

ข้อเสีย คือ ใช้เวลาพักฟื้นค่อนข้างนาน เป็นการต่อให้คางยาวขึ้นแต่ไม่ได้ช่วยปรับโครงสร้างเหมือนการเหลากระดูก และเพราะเป็นการผ่าตัดจากภายนอกจึงมองเห็นแผลเป็นชัดเจน อาจส่งผลต่อความมั่นใจของตัวคนไข้ ทั้งนี้หากปฏิบัติตามข้อแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดรอยแผลเป็นจะค่อย ๆ ลดเลือนไปเองค่ะ

แผลใน

แพทย์จะเริ่มใช้มีดกรีดตรงคาง ตั้งแต่ส่วนของเหงือกลงไปจนถึงส่วนกระดูกคางด้านหน้า โดยแผลมีความยาวประมาณ 1 – 2 เซนติเมตร เหมือนแผลนอก เมื่อกรีดเสร็จแล้วแพทย์จะทำการฝังและยึดซิลิโคนลงในตำแหน่งที่กำหนดไว้ตรงล็อคคางของคนไข้ จากนั้นแพทย์จะทำการเย็บแผลเหมือนเดิมเลยค่ะ แต่การทำคางแผลในแพทย์ต้องมีความชำนาญมากจริง ๆ สำหรับรูปแบบนี้จะไป เสริมคางที่ไหนดี ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนเลยนะคะ

ข้อดี คือ เนื่องจากเป็นการผ่าตัดจากด้านในจึงไม่เห็นรอยแผลเป็นเหมือนแผลนอก ไม่เสี่ยงกระทบเส้นประสาทและกล้ามเนื้อมุมปาก

ข้อเสีย คือ พื้นที่ผ่าตัดแคบเลยมีโอกาสเนื้อเยื่อช้ำเลือดออกเยอะ การดูแลตัวเองหลังทำคางแผลในค่อนข้างยากพอสมควร เนื่องจากทานอาหารได้ไม่สะดวกเพราะแผลจะสัมผัสน้ำลายและเศษอาหารอยู่ตลอดเวลา จึงมีความเสี่ยงติดเชื้อสูงอีกด้วยค่ะ ด้วยเหตุนี้คนที่ทำคางแผลในจึงไม่ควรทานอาหารรสจัด ร้อนจัด เย็นจัด และอย่าลืมระมัดระวังไม่ให้สิ่งต่าง ๆ มากระทบกระเทือน จนซิลิโคนคางเคลื่อนด้วยนะคะ

การตัดสินใจเลือกแพทย์คนไหน คลินิกทำคางที่ไหนดี ให้คางออกมาสวยตรงใจอย่างถูกต้อง จะมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของปัญหาที่อาจตามมาภายหลังไปได้มาก ซึ่งสิ่งที่อยากให้ทุกคนตระหนักไว้อย่างขึ้นใจเสมอคือ ไม่ว่าคุณจะเลือกศัลยกรรมคางที่คลินิกใดก็ตาม ขอให้ดูความปลอดภัย มาตรฐานของคลินิก และเลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญจริง ๆ สามารถตรวจสอบได้เพื่อรับประกันความมั่นใจค่ะ

เคลียร์ข้อสงสัย การเสริมคางที่ดี วัดจากตรงไหนกันแน่ 

ความสวยต้องมาคู่กับความปลอดภัย นี่เป็นประเด็นหลักของการศัลยกรรมคาง เราจึงได้ย้ำนักย้ำหนากับคนไข้ว่าทำไมต้องให้ความสำคัญกับการเลือกคลินิก พิจาณาจากราคาเพียงอย่างเดียวไม่ได้นะคะ หากไม่ได้มาตรฐานยังไงไม่ควรเข้ารับบริการ ในส่วนของคางที่สวยต้องดูจากอะไร นอกจากสัดส่วนใบหน้าที่กล่าวไปข้างต้น คงต้องตอบว่าคางที่สวยคือ คาง ที่เหมาะกับคุณค่ะ ไม่ใช่ว่าคางทุกทรงจะเข้ากับทุกใบหน้า ต้องให้แพทย์พิจารณาเหลาซิลิโคนเคสต่อเคสและเสริมให้ดูเป็นธรรมชาติเพื่อคุณโดยเฉพาะ

ใช้เวลากี่วัน จึงจะหายบวมช้ำ ไม่อยากทำใจนาน

ไม่ใช่เพียงแค่การทำคางเท่านั้น แต่ไม่ว่าจะทำการศัลยกรรมรูปแบบใดก็ตาม มักจะมีเรื่องบวมช้ำตามมาเป็นเรื่องปกติ ซึ่งความรวดเร็วในการฟื้นตัวขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย การดูแลตัวเองที่ดีของแต่ละบุคคล รวมถึงความชำนาญของแพทย์ผู้ทำการรักษาค่ะ

แต่โดยส่วนใหญ่ ระยะอาการบวมช้ำก็มีขอบเขตของมันอยู่ คุณสามารถรับรู้ระยะความบวมช้ำพื้นฐาน ได้ดังนี้

  • 3-7 วันแรก หลังทำคางจะเห็นอาการบวมช้ำชัดเจนเต็มที่
  • 1 สัปดาห์ขึ้นไป เนื้อเยื่อเริ่มสมานตัว อาการบวมช้ำค่อย ๆ ลดลงตามลำดับ

หากผ่านไปมากกว่า 1 สัปดาห์ แล้วอาการบวมช้ำยังไม่ทุเลาลง หรือสังเกตเห็นสัญญาณผิดปกติอื่น ๆ เช่น คางฮ้อเลือด คางอักเสบ ซิลิโคนที่เสริมไปเริ่มปูดโปน ขอให้สันนิษฐานไว้ว่าเริ่มอันตรายและรีบไปพบแพทย์ผู้ทำการศัลยกรรมคาง โดยเร็วค่ะ

ดูแลตัวเองอย่างไร แผลหายไวกลับมาสวยเร็ว

รักษาคางอย่างไรให้หายบวมเร็วนั้น ปัจจัยหลักก็ขึ้นอยู่ที่การดูแลตัวเองหลังทำและที่สำคัญคือเทคนิคของแพทย์ด้วยนะคะ การดูแลที่ดีจะทำให้แผลหายไวและตัดไหมง่าย แต่เทคนิคของแพทย์ก็เป็นส่วนแรกของการศัลยกรรมคาง หากแพทย์ไม่มีความเชี่ยวชาญหรือไม่มีเทคนิคพิเศษก็จะทำให้อาการบวมหรือเส้นประสาทอักเสบได้ ดังนั้นใครที่กำลังคิดว่าควร เสริมคางที่ไหนดี ก็ให้ความสำคัญกับส่วนนี้เป็นปัจจัยหลักนะคะ

ในส่วนของวิธีทำความสะอาด การประคบจุดต่าง ๆ รวมถึงหลักการดูแลตัวเองหลังทำคางแผลนอกและแผลใน มีดังต่อไปนี้

บริเวณที่ควรประคบ หลังทำคางแผลนอกและแผลใน

  1. ในช่วง 1-3 วันแรก ควรทำการประคบเย็น อาจใช้เจลลดไข้ที่แช่เย็นในการประคบนะคะ หรือหากใครไม่มีเจลเย็น ใช้น้ำแข็งหุ้มด้วยพาสติกและห่อด้วยผ้าอีกชั้นเพื่อกันน้ำที่ละลายเลอะแผลสำหรับคนที่ผ่าตัดแผลภายนอกค่ะ
  2. ในช่วงตั้งแต่วันที่ 4 เป็นต้นไป ใช้การประคบอุ่นจนกว่าจะตัดไหม
  3. จุดที่ควรประคบคือที่แก้มทั้งสองด้านจรดปลายคาง ประคบอย่างเบามือนะคะ

การทำความสะอาดแผลนอก

  1. ค่อย ๆ แกะผ้าดามออกทีละชั้น ชั้นสุดท้ายจะเหนียวเล็กน้อย
  2. ใช้คัตเติ้ลบัตชุบน้ำเกลือเช็คคราบกาว คราบเลือดออกให้สะอาด
  3. ใช้คัตเติ้ลบัตชุบเบนตาดีน เช็ดแผลเป็นแนวตรง 1 รอบ ห้ามเช็ดวนไปวนมาเด็ดขาด
  4. ใช้คัตเติ้ลบัตชุบน้ำเกลือ เช็คคราบเลือด คราบเบนตาดีนให้สะอาด
  5. ใช้คัตเติ้ลบัตชุบขี้ผึ้ง ทาเคลือบที่ปากแผลบาง ๆ เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกเข้าบาดแผล แต่ถ้าหากทาหนาเกินไป แผลจะแห้งช้า
  6. ปล่อยทิ้งแผลไว้ แต่ห้ามใช้พลาสเตอร์ปิดบาดแผลเด็ดขาด เพราะจะทำให้แผลแห้งช้าลง

การทำความสะอาดแผลใน

  1. หมั่นบ้วนปากทุกครั้งหลังทานอาหาร เพื่อไม่ให้อาหารติดที่บริเวณรอยแผล
  2. ควรแปรงฟันอย่างระมัดระวัง บริเวณที่มีแผลด้านในช่องปาก
  3. ในช่วงหลังเสริมใหม่ 1-2 วันแรก งดการทานอาหารสจัด รสเปรี้ยวจัด และรสเผ็ดจัดอาจจะทำให้ปวดแสบแผลได้ค่ะ
เสริมคาง

เสริมคางที่ไหนดี

มาถึงประเด็นสำคัญที่ย้ำคนไข้เสมอ อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าทุกวันนี้มีคลินิกศัลยกรรมเยอะมาก ชวนให้สับสนและกังวล ตัดสินใจไม่ถูกเสียทีว่าควรเลือกเข้ารับบริการกับคลินิกไหนกันดี เลือกได้โดยปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้ค่ะ

  1. คลินิกที่สะอาด ได้มาตรฐานการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข ใช้ซิลิโคนที่ผ่าน อย. สามารถตรวจสอบได้ ตรวจสอบ ที่นี่ ค่ะ
  2. แพทย์มีความสามารถในการประเมินรูปหน้าอย่างละเอียด 
  3. แพทย์ใช้เทคนิคที่ดี มีความชำนาญในการศัลยกรรมคางให้บวมช้ำน้อย
  4. ราคาสมเหตุสมผล ไม่ถูกหรือแพงจนเกินไป เมื่อเทียบกับต้นทุนรวมถึงการบริการต่าง ๆ 
  5. คลินิกติดตามดูแลหลังทำการรักษาเป็นอย่างดี
  6. รีวิวจากลูกค้าจริงเป็นจำนวนมาก สามารถตรวจสอบได้

หากคลินิกศัลยกรรมคาง ที่คุณสนใจเข้ารับการบริการมีปัจจัยที่กล่าวมาครบถ้วน ก็สามารถการันตีความน่าเชื่อถือได้สูงแล้วค่ะ

สำหรับข้อมูลการเสริมคางที่เตรียมมาก็จบลงเพียงเท่านี้นะคะ หวังว่าจะช่วยคลายความสงสัยเกี่ยวกับประเด็นต่าง ๆ ของการทำคางได้เป็นอย่างดี มีประโยชน์กับทุกคนที่กำลังเจอปัญหา คางสั้น คางตัด หน้าเหลี่ยม หน้ากลม จนเสียความมั่นใจ และกำลังศึกษาว่าจะเลือกคลินิกที่ไหนดี พบกันใหม่บทความหน้าค่ะ

รางวัล