มาร์คหน้า ไอเทมที่จะช่วยให้ความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิวหน้าให้หน้า อิ่มน้ำมากขึ้นซึ่งหลายคนรู้จักกันดีอยู่แล้ว แต่ยังมีหลายคนที่สงสัยว่าแผ่นมาร์คสูตรไหนดี เลือกอย่างไรให้เข้ากับสภาพผิวของเรากันแน่ แล้วจำเป็นต้องใช้ทุกวันจริงไหม เลิกสงสัยได้ในบทความนี้เลยค่ะ
1.ไขข้อสงสัยแผ่นมาร์คช่วยเรื่องอะไรบ้าง
หลายคนคิดว่ามาร์คหน้าจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นขึ้นซึ่งมีจุดเด่นช่วยปลอบประโลมและช่วยให้ผ่อนคลายแต่ความจริงแล้วแผ่นมาร์คช่วยได้มากกว่านั้น ทั้งเรื่องความกระจ่างใสลดจุดด่างดำจนไป ถึงการกระชับรูขุมขนเลยค่ะ
2.มาร์คหน้าต้องใช้ทุกวันจริงไหม
ไม่จำเป็นต้องใช้ทุกวันโดยเฉพาะการใช้มาร์คหน้าลดสิว ยิ่งไม่สามารถใช้ทุกวันได้เลยค่ะเพราะมีส่วนผสมอย่าง ซาลิไซลิค ( salicylic acid) หรือ กรด แลคติค ( lactic acid) ซึ่งส่วนผสมสองชนิดนี้ ช่วยลดสิวจากการสะสมของเชื้อโรคและการอุดตันในรูขุมขนได้ หรือแม้กระทั่งมาร์คหน้าสูตรผิวกระจ่างใสที่มีส่วนประกอบอย่าง วิตามินซี (Vitamin C) ซึ่งใช้ทุกวันทำให้หน้าบางแน่นอน และขอเตือนนิดนึงว่าอาจจะไม่เหมาะกับผิวแพ้ง่าย ยิ่งถ้าใช้ทุกวันหน้าเราอาจเกิดการระคายเคือง หน้าลอก และอาจทำให้สิวเห่อกว่าเดิมอีกค่ะ
ซึ่งหากอยากมาร์คทุกวันแนะนำเป็นสูตรเพิ่มความชุ่มชื้นอย่างเดียวถึงจะสามารถใช้ทุกวันได้โดยควรดูส่วนผสมเป็นหลักเช่น ผสมว่านหางจระเข้ (Aloe vera) ก็จะสามารถใช้ได้ในทุกวัน ไม่ทำให้หน้าระคายเคืองหรือแพ้ง่าย
3.มาร์คดีกว่าครีมธรรมดาจริงหรอ
ไม่ได้แตกต่างหรือดีกว่าการทาครีมเพราะความชุ่มชื้นที่ได้จากแผ่นมาร์คหน้าอยู่ได้ชั่วคราว ยกตัวอย่างเหมือนการที่เราดื่มน้ำแก้วใหญ่เข้าไป แต่สุดท้ายอีก 2 ชั่วโมงต่อมาเราก็หิวน้ำอยู่ดี ซึ่งนั่นก็เหมือนการมาร์คหน้าที่เราจะต้องคอยเติมความชุ่มชื้นอยู่เรื่อย ๆ และผลของการใช้มาร์คไม่ได้คงความชุ่มชื้นให้อยู่ตลอดไปเราจึงต้องทาครีมควบคู่ไปด้วยนั่นเอง
4.ใช้ยังไงให้เห็นผลกันแน่
การใช้แผ่นมาร์คให้เหมาะสมโดยเฉพาะการมาร์คหน้าลดสิว ควรเลือกสูตรที่อ่อนโยนไม่ใส่น้ำหอมเพราะจะทำให้หน้าเกิดการระคายเคืองได้ง่าย แทนที่จะช่วยลดสิวกลับไปเพิ่มสิวคงไม่ไหว ซึ่งการใช้แผ่นมาร์คให้ได้ผลที่สุดคือดูส่วนผสมของมาร์คว่าเราแพ้ไหม โดยการใช้มาร์คให้ได้ผลควรใช้ครั้งละ 15-20 นาทีหากเกินกว่านั้นแผ่นมาร์คจะดึงความชุ่มชื้นจากชั้นผิวของเราออกไปหมด ดั้งนั้นอย่านอนหลับระหว่างมาร์คหน้านะคะถ้าไม่อยากหน้าแห้ง
5.การเลือกแผ่นมาร์คหน้ายังไงให้เข้ากับผิวเรา
สูตรไหนดีต่อผิวเราสุดหลายคนตั้งคำถามแน่นอนซึ่งคำตอบคือ การจะเลือกซื้อสูตรที่ดีที่สุด ก็ควรจะเน้นสูตรที่ตอบโจทย์กับสภาพผิว ที่เรามีในแต่ละช่วง หรือตอบโจทย์ต่อ ความต้องการ ของเรามากที่สุดค่ะ เช่น ถ้าผิวหน้ามีปัญหาเรื่องรูขุมขนกว้าง ก็ควรจะเน้นซื้อที่มาร์คหน้าสูตรช่วยกระชับรูขุมขน หรือถ้าผิวหน้ามีความหมองคล้ำ และต้องการให้ผิวมีสภาพที่ขาวกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น ก็ควรจะเน้นสูตรที่ช่วยเรื่องความขาวได้ เป็นต้น แต่ถ้าคิดว่า ผิวหน้าของตัวเองนั้นมีสภาพที่ดีอยู่แล้ว ไม่รู้จะซื้อสูตรไหนดี ก็ไปเน้น สูตรที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว ก็ได้ค่ะ ผิวหน้าจะได้ดูมีสุขภาพดีอยู่เสมอ ๆ ไม่แห้งกร้าน ซึ่งเรื่องผิวดูอิ่มน้ำเนี่ย ถือเป็นเรื่องพื้นฐานที่ทุกคนควรจะบำรุงเลยค่ะ
6.ความลับของแผ่นมาร์คที่ต้องรู้
การซึมเข้าผิวของมาร์คหน้าขึ้นอยู่กับโมเลกุลความชุ่มชื้นที่ใส่มาในแผ่นมาร์ค อย่างเช่นถ้าเป็น ไฮยาลูโรนิค (Hyaluronic) เป็นส่วนผสมโมเลกุลเล็ก ก็จะซึมเข้าผิวได้ง่าย ถ้าเป็นสารที่โมเลกุลใหญ่อย่างเช่นซิลิโคน (Silicone) ก็จะซึมยากซึมช้า โดยอยูที่มาร์คหน้าแต่ละยี่ห้อว่าใส่ส่วนผสมอะไรมาแถมเป็นการเพิ่มขยะเพราะแผ่นมาร์คใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง
7. 5 มาร์คหน้ายอดฮิตที่ต้องมีติดบ้าน
ความจริงในท้องตลาดสมัยนี้ออกสูตรมาเยอะมากค่ะ ทั้งมาร์คหน้าลดสิว จนไปถึง มาร์คหน้าผิวกระจ่างใส แต่วันนี้ขอคัดแต่ตัวที่ไม่ผสมน้ำหอมนะคะเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด มาดูกันเลย
ROJUKISS
Perfect Poreless 5X Intensive Mask For Stubborn Enlarged Pores
มาร์คหน้าตัวนี้คนส่วนใหญ่คุ้นตากันแน่นอนค่ะ คนเป็นสิวควรเพราะโดยปกติการเกิดสิวง่ายมักจะมีสาเหตุจากการเป็นคนหน้ามันมากและมักจะมีอาการรูขุมขนกว้างร่วมด้วย ทำให้ผิวหน้าดูไม่ค่อยเรียบเนียน แนะนำให้ลองใช้มาร์คสูตรนี้ดูเลยค่ะ เพราะมีส่วนผสมของสารสกัดจากธรรมชาติที่มีคุณสมบัติช่วยกระชับรูขุมขนอย่างสารสกัดจาก Willo Bark, Witch Hazel และ Chestnut Shell ให้ผิวหน้าเรียบเนียนและกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นอันตรายต่อผิว แถมหลายคนที่ใช้จริงยังบอกอีกด้วยว่าตื่นขึ้นมาแล้วสิวยุบ ครบเครื่องแบบนี้ พลาดไม่ได้แล้วนะคะ
LuLuLun
Moisturizer Face Mask
มาร์คหน้าสูตรนี้ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยเลยค่ะ เพราะไม่ว่าสภาพผิวไหนก็สามารถใช้ได้ เนื่องจากเป็นสูตรปรับสมดุลความชุ่มชื้น ด้วยสารสกัดจากธรรมชาตินานาชนิด เช่น รากโสม, น้ำผึ้ง, อะโวคาโด และว่านหางจระเข้ ผสานคุณค่าจากกรดไฮยาลูรอนิค หลังจากใช้แล้วจึงสัมผัสได้ว่าผิวไม่แห้งหรือมันจนเกินไป นอกจากนี้ ยังช่วยลดการอุดตันที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิวอีกด้วยแถมคนที่ใช้จริงแอบบอกมาอีกว่า แผ่นมาร์คขนาดกำลังดี ไม่บาง ไม่ขาดง่ายด้วยนะ
BANOBAGI
Vita Genic Jelly Mask Acne
แบรนด์แผ่นมาร์คหน้ายอดนิยม การันตีความปลอดภัยและประสิทธิภาพการบำรุงผิวโดยแพทย์ผิวหนังจากเกาหลี อัดแน่นไปด้วยวิตามินมากถึง 8 ชนิด ช่วยลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของปัญหาสิว พร้อมคืนความชุ่มชื้นให้ผิวเนียนนุ่มและปลอบประโลมจากอาการระคายเคืองผิวที่เกิดจากสิว ปราศจากสารก่อการระคายเคือง 11 ชนิด จึงเหมาะเป็นมาร์คหน้าลดสิวที่ควรมีติดบ้านไว้อีกหนึ่งตัวเลยค่ะ
Leaders Clinic
Regeneration Mask With Snail Extract
ยี่ห้อนี้ใครก็ต้องเคยใช้แน่นอนเพราะเป็นมาร์คหน้าสูตรเด็ดอีกตัวที่มีส่วนผสมหลักจากเมือกหอยทาก ซึ่งมี 2 คุณสมบัติเด่น อย่างแรก คือ ช่วยลดรอยดำจากสิว ฟื้นฟูเซลล์ผิว และอย่างที่สอง คือ เติมเต็มความยืดหยุ่นให้กับผิวหน้า โดยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน จึงปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนมากขึ้น หลายคนที่ใช้เป็นประจำสัมผัสได้ว่าผิวดูอิ่มและนุ่มฟู ผิวแลดูหน้าใสขึ้น
innisfree
My Real Squeeze Mask Green Tea
หลายคนรู้ดีว่าชาเขียวช่วยลดการเกิดสิวได้มาร์คหน้าลดสิวป้องกันการติดเชื้อและยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยป้องกันริ้วรอยไปในตัว ซึ่งแผ่นมาส์กมีลักษณะบางพอเหมาะ แนบไปกับผิวได้ดี ทั้งยังชุ่มฉ่ำด้วยเซรั่มในปริมาณพอดี ทำให้ไม่เหนอะหนะเกินไปจึงเป็นที่นิยมมากในหมู่วัยรุ่นค่ะ
8.การดูแลตัวเองไม่ได้มีแค่มาร์คหน้า
การทานอาหารมีประโยชน์
การทานอาหารที่มีประโยชน์โดยเฉพาะอาหารที่กล่าวมาข้างต้นเป็นวิธีที่ง่ายและทำได้เป็นประจำในทุก ๆ วันค่ะ เพราะนอกจากจะทำให้สุขภาพแข็งแรงแล้ว ยังเป็นอาหารที่สำคัญมากเช่นกันค่ะเพราะส่งผลต่อผิวพรรณของเรา ช่วยชะลอริ้วรอย และยังช่วยให้ผิวพรรณดี หน้าใสจากภายในสู่ภายนอกด้วย
ทาสกินแคร์อย่างสม่ำเสมอ
การทาสกินแคร์ให้สม่ำเสมอเป็นถือเป็นเรื่อง ไม่เข้าใครออกใครเพราะในชีวิตประจำวันทุกคนทั้งผู้หญิงผู้ชายที่ดูแลตัวเองมักจะทาเป็นประจำอยู่แล้วอย่างไรก็ตามการทาสกินแคร์เทียบเท่ากับการใช้มาร์คหน้าแต่อาจจะต้องทาอย่างสม่ำ เสมอในขณะที่การใช้แผ่นมาร์คใช้อาทิตย์ละ 2-3 ครั้งก็เพียงพอแต่อย่างไรก็ตามถึงเราจะใช้แผ่นมาร์ค เราก็ต้องใช้การทาสกินแคร์ควบคู่ไปด้วยอยู่ดีผิวหน้าถึงจะได้รับการบำรุงสูงสุดค่ะ
การทำเลเซอร์
การทำเลเซอร์ไม่นับว่าเป็นตัวช่วยฉบับเร่งด่วนและไม่ เสียเวลา เพราะว่าเห็นผลทันทีหลังทำและไม่ต้องทำเป็นประจำทุกวัน เหมือนการกินอาหารและการทาสกินแคร์หรือเปลืองเงินค่าแผ่นมาร์คโดยการเลเซอร์นอกจากจะช่วยทำให้หน้าใส สิวหรือจุดด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ ฝ้า และ กระ แล้วยังช่วยเรื่องการบำบัดให้ผิวได้ผ่อนคลายด้วยค่ะ
ทรีทเม้นท์ช่วยได้
การทำทรีทเม้นท์หรือมาร์ควิตามินมีสามารถทำได้ทั้งที่บ้าน เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่อยากผ่อนคลายผิว แต่ไม่อยากออกไปเจอโลกภายนอก เพราะรถติดและไม่อยากออกไปเจออากาศร้อน ๆ โดยยังมีการทำทรีทเม้นท์อีกหนึ่งวิธีนั่นคือ การออกไปทำทรีทเม้นท์หน้าใสที่คลินิก เพราะการทำที่บ้านจะไม่ลงลึก ถึงชั้นผิว และต้องเตรียมอุปกรณ์มากมาย ซึ่งการทำที่คลินิก จะมีการดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และยังมีการประเมินเคสต่อเคสว่าหน้าเรา เหมาะกับการบำรุงรูปแบบไหน เพราะปัญหาของแต่ละคน แตกต่างกันออกไป การบำรุงก็จะแตกต่างกันออกไปด้วยค่ะ
ขั้นตอนการมาร์คหน้าที่ต้องรู้
คนชอบใช้มาร์คหน้าหลังจากทาครีมบำรุงเสร็จแล้ว ขณะที่หลายคนกลับชอบมาส์กตอนยังไม่ล้างหน้าหรือหลังล้างหน้าเสร็จใหม่ ๆ มากกว่า เรามาดูกันดีกว่าว่าขั้นตอนการใช้มาร์คที่ถูกต้องนั้นควรทำอย่างไรบ้างค่ะ
- ล้างหน้าให้สะอาด
- เช็ดหน้าด้วยโทนเนอร์เพื่อเตรียมผิวให้พร้อมรับการบำรุง
- เมื่อโทนเนอร์แห้งแล้วให้แปะแผ่นมาร์คหน้าไว้ประมาณ 15 – 20 นาที แล้วลอกออก
- ใช้ฝ่ามือกดให้เนื้อเซรั่มซึมเข้าผิว
สำหรับใครที่มีผิวธรรมดาสามารถจบที่ขั้นตอนนี้ได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องบำรุงต่อ แต่ถ้าผิวของใครมีปัญหา เช่น มีรอยสิวหรือผิวแห้งมาก แนะนำให้บำรุงด้วยสกินแคร์อื่น ๆ เพิ่มเติมเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดค่ะ
สรุปการมาร์คหน้าไม่จำเป็นต้องทำทุกวันค่ะเพราะอาจทำให้ผิวหน้าระคายเคืองได้ หากอยากทำทุกวันแนะนำเป็นสูตรชุ่มชื้นเพียงสูตรเดียวเพระจะไม่ส่งผลเสีย ส่วนการมาร์คหน้าลดสิว ควรมาร์คอาทิตย์ละ 2-3 ครั้งเท่านั้นเพราะจะทำให้ผิวแห้งและอาจอักเสบทำให้เกิดสิวเพิ่มขึ้น ดังนั้นอ่านมาจนถึงตรงนี้คงคลายสงสัยกันแล้วใช่ไหมคะ อย่างไรก็ตามการบำรุงผิวที่ดีควรทำให้พอดีหากอยากหน้าใสควรใช้มาร์คไม่เยอะเกินไปเพื่อ ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด