เสริมจมูกครั้งแรกต้องทำอะไรบ้าง มีข้อห้ามอะไรไหม ต้องงดทานอาหารอะไรหรือเปล่า เพื่อให้ทุกคนมีความรู้ในเรื่องวิธีดูแลก่อนเสริมจมูกที่ถูกต้อง ในบทความนี้เราจึงรวบรวมสิ่งที่จำเป็นต้องทำก่อนเริ่มต้นศัลยกรรมจมูกมาให้คนไข้ทราบ จะได้เตรียมพร้อมสิ่งต่าง ๆ รอรับจมูกใหม่ เสริมให้ใบหน้าดูมีมิติกันมากขึ้นนะคะ

การดูแลก่อนเสริมจมูก ทำถูกจมูกสวย

2 สัปดาห์แรก ก่อนเสริมจมูก

  • งดสูบบุหรี่ เหล่าสารพิษไม่ดีต่อร่างกาย

ใคร ๆ ก็รู้ว่าสารพิษในบุหรี่สร้างผลเสียต่อร่างกายมากมาย ในที่นี้รวมถึงการผ่าตัดศัลยกรรมอีกด้วยค่ะ เพราะสารพิษเหล่านี้จะเพิ่มโอกาสแผลอักเสบและติดเชื้อง่ายกว่าปกติหลังการผ่าตัด

  • งดดื่มแอลกอฮอล์ ป้องกันเลือดออกเยอะขณะผ่าตัด

ถึงไม่ใช่สายดื่มก็น่าจะพอรู้ว่าแอลกอฮอล์ทำให้เลือดไหลเวียนมากขึ้น ซึ่งนี่เป็นเหตุผลที่ไม่ควรดื่มก่อนการผ่าตัดค่ะ เพราะจะทำให้เลือดไหลเยอะ หยุดยาก และการเสียเลือดจำนวนมากระหว่างผ่าตัดย่อมไม่ดีต่อตัวคนไข้อย่างแน่นอน เป็นวิธีดูแลก่อนเสริมจมูกที่สำคัญมากเช่นกัน

ลดน้ำหนัก
  • งดทานอาหารหมักดอง อาหารทะเล และอาหารแสลง

เหล่าอาหารหมักดอง อาหารสุก ๆ ดิบ ๆ อาหารทะเล และอาหารแสลงทั้งหลาย ต้องงดให้หมดนะคะ ต่อให้ตัวคนไข้จะมั่นใจว่าไม่มีอาการแพ้อาหารเหล่านี้ แต่โดยทั่วไปแล้วอาหารเหล่านี้มักมีสารปนเปื้อนเป็นจำนวนมากค่ะ ดังนั้นขอให้เปลี่ยนไปทานอาหารที่ดีเตรียมพร้อมสุขภาพร่างกายให้พร้อมแทนจะดีที่สุด

  • งดยาที่มีผลต่อการเเข็งตัวของเลือด หรือวิตามินอาหารเสริมบางชนิด

ยากลุ่มแอสไพริน ยา NSAIDs หรืออาหารเสริมที่ส่วนผสมของวิตามิน A หรือ วิตามิน E มักจะลดประสิทธิภาพการแข็งตัวของเลือด หากคนไข้ท่านใดมียาหรืออาหารเสริมที่ต้องทานประจำ ควรปรึกษาแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดเสริมจมูกก่อนทุกครั้งนะคะ

ทำปาก

1 วัน ก่อนเสริมจมูก

  • ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่

ต่อยอดมาจากการงดอาหารต้องห้าม แล้วควรเปลี่ยนมาทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ ดีต่อร่างกายและอยู่ท้องมากกว่า 

  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 6-8 ชั่วโมง

ถ้าพักผ่อนน้อยอาจเกิดภาวะความดันต่ำ สภาพร่างกายก็คงไม่พร้อมทำการผ่าตัดเป็นแน่ หากคนไข้เดินงัวเงียมาคลินิกแพทย์ก็แอบเป็นห่วงนะคะ นอนมาให้เต็มที่ เตรียมตัวอย่างดีทั้งสภาพร่างกายและสภาพจิตใจไปเลยดีกว่า

วิธีดูแลก่อนเสริมจมูกในวันผ่าตัด

  • งดแต่งหน้า ทำความสะอาดก่อนผ่าตัด

การดูแลก่อนเสริมจมูกในวันผ่าตัดอย่างสุดท้ายคืองดแต่งหน้าค่ะ หากไม่ทำความสะอาดใบหน้าให้เรียบร้อย อาจทำให้การผ่าตัดเป็นไปได้ยากขึ้น และอาจเกิดการติดเชื้อได้อีกด้วยค่ะ อย่างไรก็ตามถึงแม้คนไข้ไม่กล้าโชว์หน้าสดเดินออกจากบ้าน คลินิกที่มีคุณภาพจะเตรียมอุปกรณ์ทำความสะอาดเครื่องสำอางไว้ให้อยู่แล้วค่ะ

เสริมจมูก
เสริมจมูก

ไม่ยากเลยใช่ไหมคะวิธีเตรียมตัวก่อนเสริมจมูกข้างต้น ไม่ว่าใครก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้แน่นอน หลังจากเตรียมพร้อมทุกอย่างแล้ว ลองมาดูขั้นตอนการผ่าตัดทำจมูกแต่ละรูปแบบเพื่อลดความกังวลกันต่อเลยดีกว่าค่ะ

ขั้นตอนการผ่าตัดเสริมจมูก ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด

เมื่อรู้วิธีดูแลก่อนเสริมจมูกและเตรียมการมาเป็นอย่างดีพร้อมเสริมจมูกแล้ว ก็เข้าคลินิกมาตามนัดได้เลยค่ะ ปกติจะใช้เวลาในการผ่าตัดประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง เท่านั้น ขึ้นอยู่ความยาก ความง่ายของแต่ละเคส และรูปแบบที่คนไข้เลือกด้วย ซึ่งกระบวนการผ่าตัดในแต่ละรูปแบบ มีดังต่อไปนี้

เสริมจมูกแบบปิด (CLOSE RHINOPLASTY)

โดยทั่วไปการทำจมูกแบบปิดนั้นจะใช้ซิลิโคนเพียงอย่างเดียว วิธีนี้เป็นวิธีที่ได้รับความนิมยมมากที่สุดเลยก็ว่าได้เพราะใช้เวลาไม่นาน หากคนไข้ไม่ได้มีโครงสร้างจมูกซับซ้อน 

เสริมจมูก

1. ทายาชา บล็อกเส้นประสาทรับความรู้สึก

แพทย์จะเริ่มต้นทายาชาบริเวณจมูกเพื่อไม่ให้คนไข้รู้สึกเจ็บปวดระหว่างผ่าตัด และรอยาชาออกฤทธิ์ประมาณ 20-30 นาทีค่ะ

2. ขั้นตอนการเหลาซิลิโคน

แพทย์จะเหลาซิลิโคนเพื่อให้เข้ากับรูปร่างจมูกของแต่ละคนอย่างประณีต ตามรูปทรงที่ต้องการเพื่อความเหมาะสมตามที่ตกลงร่วมกับคนไข้ค่ะ และสำหรับใครที่มีความกังวลใจว่าซิลิโคนที่แพทย์เลือกใช้มีวันหมดอายุไหม เมื่อผ่านไปนาน ๆ ต้องกลับมาเปลี่ยนซิลิโคนใหม่หรือเปล่า สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความ10 ข้อ ต้องรู้! ซิลิโคนเสริมจมูก อยู่ได้กี่ปี มีวันหมดอายุไหม?

3. หลังจากที่ยาชาออกฤทธิ์ เริ่มต้นทำจมูกแบบปิดได้เลย

แพทย์เริ่มต้นการผ่าตัดโดยการเปิดแผลด้านในจมูก เพียงด้านใดด้านหนึ่งเล็กน้อยเพื่อสอดซิลิโคนเข้าไปในตำแหน่งที่ถูกต้อง จากนั้นปรับให้พอดี ตรวจสอบความเรียบร้อยต่าง ๆ เช่นความตรง ไม่เบี้ยวเอียง และเนื่องจากการเสริมจมูกแบบปิดนั้นมักไม่จำเป็นต้องวางยาสลบ ระหว่างนี้แพทย์จึงสามารถพูดคุยสอบถามความพอใจของคนไข้ระหว่างการรักษาได้อีกด้วยค่ะ หากยังมีจุดที่คนไข้ไม่พอใจก็สามารถปรับแก้ไขได้ตามความต้องการ ซึ่งนี่ก็เป็นอีกหนึ่งข้อดีของการทำจมูกแบบปิดนั่นเอง

4. ใช้ไหมละลายเย็บปิดแผล

ขั้นตอนสุดท้ายในการผ่าตัด คือ แพทย์จะใช้ไหมละลายเย็บปิดแผลค่ะ แต่ถึงจะเป็นไหมละลายก็ต้องเข้ามาตัดไหมหลังครบ 14 วัน นะคะ เป็นการติดตามผลลัพธ์ไปในตัว และในส่วนของการใส่เฝือกหรือปิดพลาสเตอร์ดามจมูกไว้นั้นจะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์ค่ะ

เสริมจมูกแบบกึ่งเปิด (SEMI-OPEN RHINOPLASTY)

การศัลยกรรมเสริมจมูกแบบกึ่งเปิด จะเป็นการเปิดแผลคล้ายวิธีแบบปิด แต่ว่าจะเป็นการเปิดแผลด้านในจมูกทั้ง 2 ด้าน วิธีนี้จะเป็นวิธีที่ช่วยในการจัดการโครงสร้าง รวมถึงแก้ปัญหาได้มากขึ้นจากวิธีการผ่าตัดแบบปิด และยังสามารถทำเทคนิคเย็บอินเตอร์โดมได้ด้วย เนื่องจากพอจะมองเห็นโครงสร้างของกระดูกอ่อนมากขึ้น แต่ถ้าในกรณีที่ต้องยืดผนังกั้นจมูกเลาะขูดสารเหลวออก และต้องการปรับโครงสร้างของจมูก วิธีการนี้ยังสู้วิธีเสริมจมูกแบบเปิดไม่ได้ 

เสริมจมูก

1. ฉีดยาชา บล็อกเส้นประสาทรับความรู้สึก

แพทย์จะเริ่มต้นทำการฉีดยาชาบริเวณจมูก และรอยาชาออกฤทธิ์ประมาณ 20-30 นาที

2. ขั้นตอนการเหลาซิลิโคน

แพทย์เหลาซิลิโคนระหว่างรอยาชาออกฤทธิ์ ออกแบบให้รายบุคคล

3. เริ่มต้นผ่าตัดกรีดแผลด้านใน ซ่อนไว้ไม่มีใครเห็น

แพทย์เริ่มต้นการผ่าตัดโดยการเปิดแผลด้านในจมูกทั้ง 2 ด้าน อาจะมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานจมูกเดิมบ้างเล็กน้อยก่อนทำการเสริมซิลิโคนเข้าไปเช่นเดียวกับการเสริมจมูกแบบปิดค่ะ

4. ใช้ไหมละลายเย็บปิดแผล

ปิดท้ายด้วยการเย็บแผลด้วยไหมละลาย เป็นอันเสร็จสิ้น

เสริมจมูกแบบเปิด (OPEN RHINOPLASTY)

การศัลยกรรมเสริมจมูกแบบเปิด เป็นวิธีแก้ไขรูปร่างจมูกได้ทุกแบบ เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาโครงสร้างจมูกเยอะ ๆ ต้องทำการปรับโครงสร้างจมูกเพื่อแก้ทรงจมูกให้ดีขึ้น แต่วิธีดูแลก่อนเสริมจมูกในรูปแบบนี้ไม่ได้ต่างจากการเสริมรูปแบบอื่นค่ะ 

เสริมจมูก

1. ฉีดยาชา และใช้ยาสลบ

เนื่องจากการเสริมจมูกแบบเปิดจะมีความซับซ้อนของการรักษามากกว่าแบบปิด และใช้เวลาผ่าตัดนานจึงต้องมีการให้ยาสลบแก้คนไข้ก่อนเสริมร่วมด้วยค่ะ 

2. ขั้นตอนการเหลาซิลิโคน

แพทย์เหลาซิลิโคนตามโครงสร้างจมูกรายบุคคลอย่างเหมาะสม 

3. ผ่าตัดตกแต่งแก้ไขโครงสร้าง

หากคนไข้ท่านใดที่แพทย์มีความเห็นว่าต้องตกแต่งโครงสร้างก่อนทำจมูกเพิ่ม แพทย์จะกรีดแผลบริเวณฐานจมูกด้านนอกเพื่อให้มองเห็นโครงสร้างทุกอย่างแบบชัดเจน และเริ่มแก้ไขอย่างตรงจุดก่อนจะทำการเสริมซิลิโคนเข้าไปค่ะ เช่น การเหลาฮัมพ์ให้เรียบเนียนก่อนเสริม หรือใช้เทคนิคอินเตอร์โดมที่เป็นการเย็บกระดูกอ่อนบริเวณปลายจมูกส่วนกลางให้เข้าหากันเพื่อความสวยงาม ปลายจมูกเรียวยาวมากยิ่งขึ้น

4. ใช้ไหมละลายเย็บปิดแผล

แพทย์ประเมินความเรียบร้อยก่อนจะใช้ไหมละลายเย็บปิดแผล

ทั้ง 3 รูปแบบการผ่าตัดนอกจากการใช้ซิลิโคน ในบางเคสอาจจะมีการใช้เนื้อเยื่อบางอย่างเสริมเข้ามาเพื่อมาใช้รองปลายจมูกเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มความสวยงามและลดการเสียดสีอีกด้วยนะคะ ยกตัวอย่างเช่น 

  • กระดูกอ่อนหลังหู ใช้เพิ่มความหนาของผิวหนังตรงช่วงบริเวณปลายจมูก และป้องกันตัวซิลิโคนกระทบกับผิวหนังปลายจมูกโดยตรง และช่วยเรื่องความปลอดภัยในการเสริมจมูกกระดูกอ่อนหลังหู ไม่ให้ปลายจมูกบางตัวลงมาก ป้องกันจมูกทะลุในระยะยาว และด้วยความที่เป็นวัสดุจากร่างกายของตัวคนไข้เอง จึงไม่มีปฏิกิริยาต่อต้านใด ๆ ค่ะ อ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความเสริมจมูกกระดูกอ่อนหลังหู ป้องกันจมูกทะลุได้ 100% จริงไหม
  • เนื้อเยื่อเทียม ช่วยลดอาการเสียดสีของซิลิโคน ไม่ให้ดันเนื้อปลายจมูกจนทะลุ และเสริมให้ปลายจมูกดูมีมิติเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ถึงแม้จะไม่ได้เป็นวัสดุจากร่างกายของคนไข้เหมือนกระดูกอ่อนหลังหู แต่ก็เป็นวัสดุทางการแพทย์ที่มีความปลอดภัยสูง ผ่านการฆ่าเชื้อมาอย่างดีจึงเกิดผลแทรกซ้อนน้อยหรือไม่เกิดผลข้างเคียงอะไรเลยค่ะ อ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความเสริมจมูกเนื้อเยื่อเทียม ป้องกันจมูกทะลุได้จริงไหม ดีแค่ไหนต้องอ่าน !!
รางวัล

เมื่อเตรียมตัวเตรียมใจรู้ข้อมูลวิธีดูแลก่อนเสริมจมูกครบทุกอย่างแล้ว อีกสิ่งสำคัญที่อยากฝากไว้คือ อย่าลืมตรวจสอบ สถานที่และแพทย์ก่อนตัดสินใจทำจมูก สืบค้นข้อมูลที่จำเป็นและรีวิวจากผู้ใช้จริง เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง ใครจะคิดว่าการเตรียมตัวก่อนเข้ารับการเสริมจมูกไม่สำคัญขอให้เปลี่ยนความคิดใหม่ การดูแลตัวเองหลังทำสำคัญก็จริง แต่การเตรียมตัวก่อนเสริมจมูก ก็สำคัญไม่แพ้กันเลยค่ะ เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง