ฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์ หลาย ๆ คนก็อาจจะมีข้อสงสัยหรือคำถามเกิดขึ้นมาในหัวมากมาย ว่าสารตัวนี้คืออะไร สามารถช่วยเเก้ไขปัญหารูปหน้า หรือเติมเต็มส่วนที่หายไปให้กลับมาดูละมุน ดูอ่อนเยาว์ ดูสดใสยิ่งขึ้นจริงไหม ฉีดตรงไหนได้บ้าง กี่วันถึงจะเห็นผล อยู่ได้นานแค่ไหน หรือใครบ้างที่ไม่ควรฉีดเพราะทุกวันนี้เราก็เห็นข่าวมากมายเกี่ยวกับอันตรายจากการฉีดหน้า จึงจำเป็นมากที่เราจะมาทำความเข้าใจ คลายความสงสัยให้ชัดเจนก่อนที่จะตัดสินใจฉีด เพราะไม่อย่างนั้นอาจหน้าพัง จนแก้ไขไม่ได้ ดังนั้นวันนี้เรามาทำความเข้าใจและตอบคำถามเกี่ยวกับข้อสงสัย ไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

1. ฟิลเลอร์ คืออะไร?

เป็นสารไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) มีคุณสมบัติเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปบนใบหน้า และเติมความชุ่มชิ้นได้ เช่น ริ้วรอยบริเวณขมับ ร่องแก้ม ใต้ตา ปากบาง ซึ่งจะอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน – 1 ปี ขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่เลือกใช้ หากฉีดของแท้ ตัวยาก็จะสลายหายไปตามธรรมชาติ ไม่มีสารตกค้างให้เป็นอันตราย ผลลัพธ์ที่ได้จะช่วยปรับให้ใบหน้า ดูเอิบอิ่มละมุน อ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น

2. ฟิลเลอร์ มีกี่ประเภท?

ฉีดฟิลเลอร์
  • แบบชั่วคราว (Temporary filler) สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ อยู่ได้นาน 4-6 เดือน มีความปลอดภัยสูงและไม่มีสารคงค้างหลงเหลือ มีความใกล้เคียงกับสารในร่างกาย
  • แบบกึ่งถาวร (Semi Permanent filler) อยู่ได้นาน 2 ปี มีความปลอดภัยในระดับปานกลาง
  • แบบถาวร (Permanent filler) เป็นประเภทที่สามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติ อาจมีผลข้างเคียงได้ในระยะยาว และมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อสูง

3. Filler อันตรายไหม?

หากฉีดที่มีการรับรองความปลอดภัยสูงด้วยการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ประเทศไทย และเป็นสารไฮยาลูรอนิก แอซิด ( Hyaluronic Acid ) ชนิดที่มีความใกล้เคียงกับสารในร่างกาย สามารถสลายตัวเองได้ 100% จะไม่มีสารตกค้างหลงเหลือในร่างกาย และถ้าได้รับการฉีดจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ สามารถฉีดเพื่อแก้ปัญหาได้แม่นยำและตรงจุดแล้ว ไม่เป็นอันตรายกับร่างกายอย่างแน่นอนค่ะ 

4. ฉีดหน้าแล้วดียังไง?

ฟิลเลอร์
  • ฟิลเลอร์แท้ช่วยเติมเต็มปรับรูปหน้าให้ดูละมุน ดูอ่อนเยาว์มากขึ้น
  • สามารถแก้ไขในจุดที่เราอยากเติมเต็มได้อย่างเเม่นยำ เเละเป็นธรรมชาติ 
  • สามารถเติมเต็มได้เรื่อย ๆ หากต้องการความเอิบอิ่ม เเต่ต้องขึ้นอยู่กับการประเมินใบหน้าจากคุณหมอร่วมด้วย
  • ไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีรอยแผล เห็นผลทันทีหลังทำเสร็จ สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
  • ได้รับรองจากองค์การอาหารเเละยา ปลอดภัยสลายหมดไม่มีสารตกค้างในร่างกาย
  • เป็นหัตถการความงามที่ใช้เวลาไม่นานเพียง 30-40 นาที เห็นผลชัดเจน

5. ใครฉีดได้บ้าง?

  • ผู้ที่มีปัญหาผิว ต้องการลดและแก้ไขปัญหาริ้วรอยร่องลึก บริเวณต่าง ๆ ของใบหน้า เช่น หน้าผากย่น ใต้ตาดำ ร่องลึกมุมปาก 
  • ผู้ที่ต้องการแก้ไขปรับแต่งรูปหน้า เช่น เติมริมฝีปากให้อวบอิ่ม  
  • ผู้ที่ต้องการบำรุงผิวหน้าให้กลับมาคงความอ่อนเยาว์ สดใส เปล่งปลั่ง 
  • ผู้ที่มีปัญหากังวลเรื่องรูขุมขน หลุมสิวบนใบหน้า 

6. ฉีดตรงไหนได้บ้าง?

ฟิลเลอร์
  • ขมับ เติมเต็มใบหน้าให้สวย อ่อนเยาว์ ดูมีมิติ
  • Midface หรือ บริเวณกลางหน้า โดยคืนความอ่อนเยาว์ ใบหน้าโดยรวมดูเด็กลง อิ่มเอิบขึ้นทันที
  • ร่องแก้ม แก้ปัญหาร่องแก้มที่ลึก ทำให้หน้าดูเด็กลง
  • ใต้ตา ลดปัญหารอยดำ ร่องลึก ถุงใต้ตาเรียบตึงขึ้น
  • ริมฝีปาก แก้ปัญหาปากบาง เติมเต็มร่องปากให้ดูอวบอิ่ม ยกมุมปากให้เป็นทรงสวย
  • คาง ปรับรูปหน้า ใบหน้าเรียวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ กรอบหน้าคมชัด

อ่านคู่มือเลือกฉีดได้ที่นี่

ฉีดฟิลเลอร์

7. ฉีดยี่ห้อไหนดี? แต่ละยี่ห้อต่างกันอย่างไร?

ในปัจจุบันมีหลากหลายยี่ห้อหลายรุ่นให้เลือกใช้เพื่อแก้ไขปัญหาผิวตามบริเวณจุดต่าง ๆ ขอบอกเลยว่าไม่มียี่ห้อไหนที่ดีที่สุด เพราะแต่ละยี่ห้อมีคุณสมบัติแตกต่างกันไป และความเข้มข้นของสารเติมเต็ม ไฮยาลูรอนิค แอซิด Hyaluronic Acid (HA) สามารถเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปบนใบหน้าได้อย่างรวดเร็วภายใน 30 นาที และหากเป็นฟิลเลอร์แท้ 100 % ตัวยาก็จะสลายหายไปตามธรรมชาติ ไม่มีสารตกค้างให้เป็นอันตราย ผลลัพธ์ที่ได้จะช่วยปรับรูปหน้าให้ดูเอิบอิ่มละมุน ดูอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น

Juvederm เนื้อมีความยืดหยุ่นสูง อุ้มน้ำได้ดี เกิดการบวมน้ำน้อย เพราะมีเทคโนโลยี hylacross และ vycross ทำให้หลังฉีดมีความเรียบเนียน ดูกลืนเข้ากับผิวอย่างเป็นธรรมชาติ

ฟิลเลอร์

Belotero มีคุณสมบัติเด่นคือมีสารอุ้มน้ำ ที่ช่วยทดแทนคอลลาเจนที่หายไปจากใบหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ ปรับรวมกับร่างกายได้ดี

ฟิลเลอร์

Neuramis เป็นรุ่นที่ไม่มียาชา เนื้อแข็งปานกลาง เหมาะสำหรับการเติมเต็มร่องแก้ม คาง ขมับ

ฟิลเลอร์

เพื่อให้ง่ายต่อการเลือกยี่ห้อในการฉีด สามารถเลือกฉีดตามที่แนะนำได้ตามนี้ค่ะ 👇

1. ใต้ตา และ ปาก สำหรับใครที่อยากฉีดเติมเต็มใต้ตาดำ ดูอิดโรย หมองคล้ำ หรืออยากเติมเต็มรูปปากให้ดูอวบอิ่มฉ่ำเป็นธรรมชาติ ควรฉีดยี่ห้อ belotero

2. ร่องแก้ม และ แก้มส้ม สำหรับคนที่มีปัญหาร่องแก้มลึก หรือมีปัญหาแก้มตอบดูโทรม หน้าดูแก่ ควรฉีดยี่ห้อ Juvederm Ultra Plus 

3. คางสั้น หน้ากลม ไม่มีมิติ รวมถึงขมับเว้า ทำให้หน้าไม่ได้รูปทรงที่สวยงาม ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะหมดไป ซึ่งคางและขมับเป็นจุดที่มีความแข็ง จึงควรฉีดยี่ห้อ Juvederm Voluma

8. ฉีดไปแล้วจะมีอาการข้างเคียงอะไรบ้าง?

ฟิลเลอร์

อาจมีรอยแดงจากเข็ม และหายเองได้ใน 2-3 วันและจะมีอาการบวมหลังฉีดซึ่งสามารถหายบวมเองได้ประมาณ 7-14 วัน หลังจากนั้นบริเวณที่ฉีดไปจะเริ่มเข้าที่และเห็นผลลัพธ์ชัดเจนมากขึ้น

9. ฉีดไปแล้วกี่วันจึงจะเห็นผล?

เห็นผลทันทีหลังทำ ช่วงแรกใบหน้าอาจจะบวมเล็กน้อย หลังจากผ่านไป 1-2 สัปดาห์อาการบวมจะหายไปและเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ต้องการ

10. ผลลัพธ์หลังฉีดอยู่ได้นานแค่ไหน?

ฟิลเลอร์
  • Neuramis อยู่ได้ 6-12 เดือน ขึ้นกับรุ่นและบริเวณที่ฉีด
  • Belotero อยู่ได้ 8-18 เดือน ขึ้นกับรุ่นและบริเวณที่ฉีด
  • Juvederm อยู่ได้ 8-18 เดือน ขึ้นกับรุ่นและบริเวณที่ฉีด

Filler สามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติ โดยจะสลายเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับยี่ห้อ ตำแหน่งที่ฉีด และไลฟ์สไตล์ของคนไข้แต่ละคนด้วย

11. ข้อควรระวังของการฉีด Filler

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับบริเวณที่ฉีด
  • หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด และความร้อน
  • หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่มีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด
  • หลีกเลี่ยงการแว็กซ์ ถอน ย้อมสีขน หรือใช้ครีมกำจัดขน
  • ควรดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อเพิ่มความอวบอิ่มให้กับใบหน้า
  • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่

อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อควรระวังได้ที่นี่

12. ฉีดฟิลเลอร์ปลอม อันตรายอย่างไร?

หากได้รับการฉีดของปลอมเข้าไป อาจส่งให้กับร่างกายหลายอย่างได้ ซึ่งอันตรายที่เกิดอาจเกิดจากการที่ฉีดไปแล้วสารปลอมไม่สลาย ทิ้งสารตกค้าง ปล่อยไว้เป็นเวลานานก็จะเป็นก้อนได้ จนอาจถึงขั้นผ่าตัดเพื่อนำสารปลอมเหล่านี้ออก ซึ่งอันตรายที่เกิดจากสารปลอมมีอะไรบ้าง มาดูกันค่ะ 

  • 3-5 ปี ซิลิโคนเหลวจะเริ่มไหลกองลงมาเป็นก้อน
  • บวม ห้อยย้อย เป็นก้อนแข็ง
  • ทำให้ผิวหนังบริเวณที่ฉีดผิดรูป
  • เนื้อตาย เกิดพังผืด
  • บวม แดง อักเสบติดเชื้อ

13. ฉีดแล้วจะเป็นก้อนไหม?

การฉีดแล้วเป็นก้อน เป็นอาการที่เกิดขึ้นปกติหลังฉีดอยู่แล้ว โดยจะสามารถรู้สึกถึงก้อนนั้นโดยการสัมผัสเท่านั้น ถ้าฉีดฟิลเลอร์แท้ก้อนนั้นจะค่อย ๆ ยุบและหายไปในที่สุด แต่หากมีอาการบวมแดงร่วม หรืออาการบวมที่นานเกินไป ควรเข้าพบแพทย์เพื่อรักษาตามอาการค่ะ 

14. หลังฉีดฟิลเลอร์โดนความร้อนจะสลายตัวจริงไหม?

หากได้รับความร้อนที่มีอุณหภูมิสูง เช่น ซาวน่า การทำอัลเทอร่า (Ulthera) หรือเทอร์มาจ (Thermage) แต่ไม่ไม่ได้มีการละลายแต่อย่างใด เพียงแต่สลายเร็วกว่าเดิมเท่านั้น และอาจจะส่งผลถึงผลลัพธ์ของการฉีดได้ ตัวสารจะสลายไม่อยู่ในตำแหน่งที่แพทย์ได้วางไว้ 

15. ถ้าหยุดฉีด หน้าจะแก่ลงไหม?

หลังฟิลเลอร์แท้สลายหมดจะไม่ทำให้หน้าแก่ขึ้น แต่จะช่วยชะลออายุผิวให้แก่ช้าลง

การฉีดสารไฮยาลูโรนิค แอซิด จะทำให้ผิวบริเวณที่ฉีดมีความชุ่มชื้นและมีน้ำหล่อเลี้ยงมากขึ้น คอลลาเจนและอิลาสตินบริเวณนั้นก็จะถูกสร้างขึ้นด้วย หลังตัวยาสลายหมดคอลลาเจนและอิลาสตินของร่างกายจะยังคงอยู่ สภาพผิวก็จะดีกว่าตอนที่ยังไม่ได้ฉีด 

16. ฟิลเลอร์ราคาเท่าไหร่?

ราคาจะแตกต่างกันตามยี่ห้อซึ่งตัวหลัก ๆ ที่นิยม ฟิลเลอร์แท้ที่มีความปลอดภัย ได้แก่ Juvederm (อเมริกา)  Neuramis (เกาหลี) และ Belotero (สวิตเซอร์แลนด์) ราคาก็จะแตกต่างกันไปตามรุ่นและคุณสมบัติค่ะ

ยี่ห้อจากปกติราคาเหลือเพียง
Juvederm20,000 บาท12,000 บาท
Belotero20,000 บาท9,900 บาท
Neuramis14,000 บาท6,900 บาท

ควรตรวจสอบราคาเปรียบเทียบให้ดี เพราะถ้ามีราคาที่ต่ำเกินไปอาจเป็นฟิลเลอร์ปลอมได้

17. ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ทำไมต้อง Sowon Clinic

ฉีดฟิลเลอร์

เนื่องจาก Sowon Clinic ได้รางวัลมาจากบริษัท MERZ AESTHETIC ซึ่งเป็นบริษัทที่นำเข้า Filler belotero โดยได้รางวัล 2020 THE GOLD AWARD FOR MERZ FILLER รางวัลที่ผู้เข้ารับบริการฉีด belotero มากประจำปี 2020  จากบริษัท Merz Aesthetics Thailand และรวมไปถึงรางวัล 2021 THE PLATINUM AWARD FOR MERZ FILLER ได้รับรางวัล ติด 1 ใน 11 คลินิกปรับรูปหน้าของประเทศไทยที่มีผู้เข้าฉีด belotero มาก ประจำปี 2021 จากบริษัท Merz Aesthetics Thailand